ลิ้งค์เชื่อมต่อ

หญิงยูเครนเข้าร.ร.เตรียมทหารมากขึ้น แม้ฝึกเข้มเยี่ยงชายชาตรี


นาดี วัย 36 ปี ประจำการที่ค่ายทหารในหมู่บ้านลูฮันสเกอร์ ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อ 24 ก.ย. 2024 (รอยเตอร์)
นาดี วัย 36 ปี ประจำการที่ค่ายทหารในหมู่บ้านลูฮันสเกอร์ ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อ 24 ก.ย. 2024 (รอยเตอร์)

หลังจากสงครามรัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว ทำให้ยูเครนเผชิญกับการขาดแคลนไม่เพียงแต่อาวุธยุทโธปกรณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทหารด้วย และตอนนี้ผู้หญิงยูเครนจำนวนมากตบเท้าเข้าร่วมกองทัพยูเครนกันมากขึ้น แม้จะต้องเข้ารับการฝึกฝนอย่างหนักเยี่ยงชายอกสามศอกก็ตามที

เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ที่ผู้ชายจะเข้ารับการศึกษาวิชาทหารในโรงเรียนเตรียมทหารอีวานโบฮูน (Ivan Bohun) ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน — โรงเรียนเก่าของเหล่านายทหารระดับสูงของยูเครน อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีมาแล้ว มีผู้หญิงเข้าร่วมโรงเรียนเตรียมทหารระดับต้น ๆ ของยูเครนเพื่อให้ได้รับการฝึกฝนวิชาทหารมากขึ้น

เพื่อเป็นการรองรับความต้องการทหารที่เพิ่มขึ้นในยูเครน โรงเรียนเตรียมทหารได้เริ่มต้นการเป็นโรงเรียนเตรียมทหารที่ชายหญิงจะเรียนด้วยกันได้ โดยพันเอกดมิโทร ยาร์โมเลนโก รองผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร เผยว่า การเพิ่มผู้หญิงเข้ามาในโรงเรียนได้ช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้ดีขึ้น

พันเอกยาร์โมเลนโก บอกว่า “อย่างแรก เรามีนักเรียนนายร้อยหญิงเพียงชั้นเรียนเดียว และเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเรา และตอนนี้เรามีนักเรียนนายร้อยหญิงมากกว่า 60 คนแล้ว พวกเธอเฉลียวฉลาด พร้อมสำหรับปัญหาและรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ ๆ”

ก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะปะทุขึ้น บทบาทของผู้หญิงในกองทัพมีอยู่จำกัด แต่ตอนนี้พันเอกยาร์โมเลนโก บอกกับวีโอเอเลยว่า ผู้หญิงสามารถรับตำแหน่งหน้าที่ในกองทัพได้หลากหลายขึ้นมากแล้ว

รองผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร เสริมว่าผู้หญิงในกองทัพสามารถรับหน้าที่ได้หลากหลาย “...ในฐานะผู้บัญชาการทหาร ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษ พลร่ม และอีกหลายบทบาทหน้าที่”

โรงเรียนเตรียมทหารแห่งนี้ รับสมัครผู้หญิงเพิ่มขึ้นทุกปี เด็กผู้หญิงและผู้ชายที่นี่มาเพื่อเรียนรู้และฝึกฝนร่วมกัน และต้องแข่งขันกันในแต่ละวันเสียด้วยซ้ำ

ลิซ่า บาห์นี (Liza Bahniy) ผู้เก่งกาจในการแข่งขันงัดข้อและชกมวย ด้วยความเป็นอดีตนักกีฬาทำให้เธอตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเป็นทหาร

บาห์นี บอกกับวีโอเอว่า “ฉันรักยูเครน และฉันต้องการปกป้องประเทศ ฉันอยากจะเป็นเจ้าหน้าที่ของกองทัพบกยูเครน และอยากไปร่วมรบที่แนวหน้า หลังจากเรียนจบแล้ว ฉันจะไปแน่นอน”

ด้านโบห์แดนนา เทอร์โนปีย์ (Bohdanna Ternopyh) เพื่อนร่วมชั้นของบาห์นี พาวีโอเอทัวร์ห้องเรียนของผู้หญิงที่เธอได้เรียนรู้การจัดระเบียบสิ่งของต่าง ๆ พี่ชายของเธอเข้าร่วมสงครามที่แนวหน้า และพ่อแม่ของเธอสนับสนุนการตัดสินใจที่จะเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหารของเธอเช่นกัน โดยตอนนี้เธออยากรับใช้ชาติ และกองทัพยูเครนได้เปิดประตูแห่งโอกาสให้แก่ผู้หญิงมากขึ้นด้วย

เทอร์โนปีย์ บอกกับวีโอเอว่า “หากเรามองย้อนไปช่วงปี 2010-2014 วัฒนธรรมยูเครนได้เปลี่ยนไปในเชิงบวก เพราะก่อนหน้านี้ ผู้ชายไม่ยอมรับผู้หญิงในกองทัพ ผู้หญิงมักจะทำอาชีพกุ๊ก ผู้ประกอบการ หรือคนขับรถ แต่ในวันนี้ มีผู้หญิงมากขึ้นที่เป็นพลซุ่มยิงหรือพลปืน พูดแบบทั่ว ๆ ไปก็คือผู้หญิงจะอยู่ในบทบาทไหนก็ได้ในกองทัพ”

ร้อยเอกสวิตลานา เชมชุค (Svitlana Shemchuk) อาจารย์และผู้ดูแลโครงการนักเรียนนายร้อยหญิง ย้ายมาประจำการที่กรุงเคียฟ หลังจากรัสเซียผนวกแหลมไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เมื่อปี 2014 เธอรับรู้ได้เช่นกันว่ากองทัพยูเครนเพิ่มโอกาสให้กับผู้หญิงมากขึ้นในปัจจุบัน

ร้อยเอกเชมชุค บอกกับวีโอเอว่า “สิ่งที่เปลี่ยนไปคือผู้หญิงได้รับความเท่าเทียมทางเพศ ผู้หญิงสามารถทำได้ทุกอย่าง เมื่อเรามองดูเด็กผู้หญิงที่โรงเรียนเตรียมทหารแล้ว พวกเขามีความอดทน ฉลาด และมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าผู้ชาย อีกทั้งพวกเธอยังมีความยืดหยุ่นมากกว่าด้วย”

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมยูเครนล่าสุดในปี 2024 เผยว่า ผู้หญิงกว่า 45,000 คนเข้าร่วมกองทัพยูเครน โดยผู้หญิงส่วนใหญ่จะรับบทบาทหน้าที่ในหน่วยกองหนุน และกว่า 4,000 คนร่วมสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่นายทหารรายอื่น ๆ ในสมรภูมิ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงยูเครนพร้อมที่จะอดทนต่อความยากลำบากของสงครามเพื่อปกป้องประเทศของพวกเธอ

  • ที่มา: วีโอเอ

กระดานความเห็น

เกี่ยวข้อง

XS
SM
MD
LG