กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยรายงานว่า มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจและการเงินที่สหรัฐฯ นำมาใช้ต่อสู้กับการก่อการร้าย การสะสมอาวุธนิวเคลียร์ การค้ายาเสพติดและภัยคุกคามอื่น ๆ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมานั้น จำเป็นต้องมีการปรับปรุงให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกการเงินในทุกวันนี้
รายงานของกระทรวงการคลังยังระบุถึงการอัพเดตเทคโนโลยีที่ใช้ และเพิ่มความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการใช้เทคนิคและเครื่องมือใหม่ ๆ เช่น เงินดิจิทัล
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ วอลลี อเดเยโม ระบุว่า แม้การทบทวนครั้งล่าสุดได้พบว่ามาตรการลงโทษที่ใช้อยู่นั้นยังคงให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่ก็กำลังเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ มากขึ้นเช่นกัน
รายงานชิ้นนี้เผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุผู้ก่อการร้ายโจมตีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2001 กระทรวงการคลังได้ใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น 933% คือจาก 912 ครั้งเมื่อปี 2001 เป็น 9,421 ครั้งในปีนี้
รายงานบอกด้วยว่า มาตรการลงโทษดังกล่าวประสบความสำเร็จในการป้องกันไม่ให้อิหร่านนำรายได้จากการขายน้ำมันไปใช้ในโครงการพัฒนานิวเคลียร์ และทำให้อิหร่านต้องยินยอมเข้าสู่การเจรจาด้านนิวเคลียร์กับประเทศตะวันตกเมื่อปี 2015
นอกจากนี้ ยังมีการลงโทษบุคคลและนิติบุคคลมากกว่า 1,600 กรณีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและการค้ายาเสพติดข้ามชาติ
อย่างไรก็ตาม รายงานชี้ว่าจำเป็นต้องมีการปรับปรุงมาตรการลงโทษเหล่านั้นให้ทันกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ๆ ของบรรดาอาชญากรไซเบอร์ และการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินโลก เช่น เงินดิจิทัล ที่ทำให้เงินดอลลาร์ลดความสำคัญลงด้วย
