เฟซบุ๊กและกูเกิ้ล ขยายเวลาแบนโฆษณาการเมืองออกไปอีก 1 เดือน หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ เพื่อสกัดกั้นการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งบนแพลตฟอร์ม
การขยายกรอบเวลาห้ามโฆษณาการเมืองของทั้งเฟซบุ๊กและกูเกิ้ล ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดโฆษณาในสื่อสังคมออนไลน์มากกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดโลก มีขึ้นหลังจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ และมีการรายงานรวมถึงการกล่าวอ้างที่ไร้หลักฐานเกี่ยวกับความโปร่งใสของการเลือกตั้งในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ทีมกลยุทธ์ด้านดิจิตัลของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ต่างเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่าการตัดสินใจของเฟซบุ๊กและกูเกิ้ล ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นบนแพลตฟอร์ม นั่นคือ การเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่ไม่ต้องใช้เงินโฆษณา ซึ่งไม่ได้ผ่านการตรวจสอบจากแพลตฟอร์มเหล่านี้
อีกด้านหนึ่ง สื่อสังคมออนไลน์ ทวิตเตอร์ เตรียมพิจารณาถอดสิทธิพิเศษบางอย่างที่บัญชีทางการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เคยได้รับ หลังวันที่ 20 มกราคมปีหน้าหากประธานาธิบดีทรัมป์พ้นจากตำแหน่งผู้นำสหรัฐไปแล้ว
ก่อนหน้านี้ ทวิตเตอร์ใช้วิธีระบุแจ้งเตือนบนทวีตของปธน.ทรัมป์ ที่อาจไม่มีพื้นฐานจากข้อเท็จจริง เช่นที่อ้างถึงการทุจริตในการเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ด้วยการระบุขอให้ผู้ติดตามพิจารณาว่าข้อความทวีตดังกล่าวอาจเป็นข้อมูลไม่ถูกต้อง ทั้งๆ ที่ตามปกติแล้วทวิตเตอร์จะถอดเนื้อหาลักษณะนี้ออกจากแพลตฟอร์ม
อย่างไรก็ตาม ทวิตเตอร์ยอมผ่อนปรนมาตรการดังกล่าวให้กับประธานาธิบดีทรัมป์เนื่องจากเห็นว่าเป็นเนื้อหาที่มาจากบัญชีทางการของผู้นำโลกที่ดำรงตำแหน่งอยู่ โดยให้เหตุผลว่าสาธารณชนอาจได้ประโยชน์บางอย่างจากการแสดงออกของผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ระดับผู้นำ
โฆษกของทวิตเตอร์ระบุว่ามาตรการผ่อนปรนนี้จะไม่มีผลบังคับใช้กับ “อดีตผู้นำ” รายใดอีกต่อไป
