เกิดเหตุโจมตีที่สถานกงสุลจีน และตลาดใหญ่ในปากีสถาน เสียชีวิตแล้ว 34 ราย!

Rescue workers move a body after an attack on the Chinese consulate, where blasts and shots were heard, in Karachi, Pakistan, Nov. 23, 2018.

เกิดการโจมตีโดยกลุ่มติดอาวุธหลายครั้งในปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 ราย บาดเจ็บอีกหลายสิบคน ซึ่งรวมถึงการโจมตีที่สถานกงสุลของจีนในเมืองการาจี

เจ้าหน้าที่เมืองการาจี ซึ่งเป็นเมืองท่าทางภาคใต้ของปากีสถาน รายงานว่า เกิดเหตุมือระเบิดฆ่าตัวตาย 3 คนได้โจมตีใส่สถานกงสุลจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย

การโจมตีดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ บริเวณจุดขอวีซ่าเข้าประเทศจีน ทำให้เกิดไฟไหม้ที่สถานกงสุลซึ่งต้องใช้เวลานับชั่วโมงในการดับไฟ

Smoke rises from the Chinese consulate after an attack by gunmen in Karachi, Pakistan, Nov. 23, 2018, in this still image taken from a video obtained from social media.

​รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตคือตำรวจ 2 ราย และประชาขนปากีสถานผู้กำลังเข้าคิวขอวีซ่าอีก 2 ราย

กลุ่มบาลุช ลิเบอร์เรชั่น อาร์มี กล่าวอ้างความรับผิดชอบในการโจมตีครั้งนี้ และได้เปิดเผยรูปภาพของมือระเบิดฆ่าตัวตายทั้งสามรายนั้นด้วย

และภายหลังการโจมตีที่เมืองการาจีเพียงไม่กี่ชั่วโมง ได้เกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ตลาดแห่งหนึ่งในแคว้นโอรัคไซ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 40 ราย

เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจำนวนผู้เสียชีวิตออาจสูงกว่าที่ประเมินไว้

นายกรัฐมนตรีปากีสถาน อิมราน คาน กล่าวประณามการโจมตีทั้งสองครั้ง พร้อมสั่งให้มีการสืบสวนการโจมตีที่สถานกงสุลของจีนอย่างเร่งด่วน เพราะถือเป็นการบ่อนทำลายความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

ด้านสถานทูตจีนในปากีสถาน มีคำแถลงประณามการโจมตีครั้งนี้เช่นกัน พร้อมยืนยันว่าไม่มีชาวจีนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีที่สถานกงสุลในเมืองการาจี

จีนถือเป็นเพื่อนบ้านและพันธมิตรสำคัญของปากีสถาน โดยจีนได้ลงทุนมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในโครงการที่เรียกว่า ระเบียงเศรษฐกิจ จีน-ปากีสถาน หรือ CPEC ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 'หนึ่งถนน-หนึ่งวงแหวน' ของจีน

Members of the bomb disposal unit, checking the explosives recovered from a bag, after an attack on the Chinese consulate, in Karachi, Pakistan, Nov. 23, 2018.