คำเรียกร้องขององค์การอนามัยโลกครั้งนี้ ทำในนามขององค์กรระหว่างประเทศต่างๆมากกว่า 30 แห่งที่ทำงานบริการด้านสุขภาพอนามัย
เวลานี้ งบประมาณขององค์การอนามัยโลกขาดดุลอยู่ 65% เพราะไม่ได้รับเงินบริจาคในปีที่แล้วตามเป้าหมาย
เป้าเงินบริจาคสำหรับการรณรงค์ในปีนี้ WHO กำหนดไว้ที่ 1 พันล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่ หรือประมาณ 687 ล้านดอลลาร์ จะใช้ในการช่วยเหลือชาวซีเรียราวๆ 12.7 ล้านคน
Sylvia Elisabeth Hoff ผู้แทนของ WHO ประจำซีเรีย บอกว่าปัญหาท้าทายที่สำคัญอันหนึ่ง คือการนำความช่วยเหลือให้ถึงตัวผู้ต้องการความช่วยเหลือ และว่า ที่ WHO วิตกกังวลมากที่สุดในอนาคตอันใกล้ คือโรคภัยไข้เจ็บที่มากับน้ำ และว่า ในปีที่แล้ว มีผู้ป่วยเป็นโรคตับอักเสบ A มากกว่าสามหมื่นหนึ่งพันราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ไม่มีน้ำสะอาดปลอดภัยให้ดื่มใช้ได้เหมือนเมื่อก่อน
เจ้าหน้าที่ขององค์การอนามัยโลกผู้นี้ ระบุว่ามีชาวซีเรีย 2.7 ล้านคนที่พำนักอาศัยอยู้ในบริเวณใต้การควบคุมของกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIL/ISIS) ส่วนอีก 4.8 ล้านคน อยู่ในบริเวณทุรกันดาร
เงินอีกเกือบ 219 ล้านดอลลาร์ จะใช้ในการให้บริการสุขภาพแก่ประชาชน 4 ล้านคนในอิรัก ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้ พลัดพรากจากถิ่นที่อยู่ในประเทศ เพราะกลุ่ม ISIL/ISIS
อิรักยังขาดแคลนยา รวมทั้งมีอัตราการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กต่ำมาก ทำให้วิตกว่าโรคระบาดอย่าง Polio หรือโรคไข้สันหลังอักเสบ และโรคหัดอาจกลับมาระบาดอีกครั้งหนึ่งได้
WHO กำหนดงบประมาณสำหรับ Sudan ใต้ (South Sudan) ไว้ 90 ล้านดอลลาร์ และ Tarande Constant Manzila ผู้แทนขององค์การอนามัยโลกประจำ Sudan ใต้บอกว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางนำอาหารและบริการที่เตรียมไว้ที่กรุง Juba ไปให้ประชาชนในบริเวณทุรกันดารจะสูงมาก เขายกตัวเลขของปีที่แล้วที่ต้องอาศัยใช้เครื่องบินมากกว่า 300 เที่ยวบิน เพื่อไปให้บริการตามจุดต่างๆมากกว่า 80 แห่ง
ขณะเดียวกัน WHO รายงานว่า มีประชาชนเกือบ 1.5 ล้านคนในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ที่กำลังรอรับบริการด้านสุขภาพอนามัย และงบประมาณที่กำหนดไว้จะตกราวๆ 48 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมทั้งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดและโรคอื่นๆ การบำบัดรักษาโรคไข้จับสั่น การติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ และการจัดการกับภาวะฉุกเฉินที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น ความฉุกเฉินที่เกี่ยวกับการคลอดลูกเป็นต้น