ลิ้งค์เชื่อมต่อ

วีโอเอสัมภาษณ์พิเศษ ‘แอนโทนี บลิงเคน’ รมต. ต่างประเทศสหรัฐฯ


Sun Narin interview with Secretary of State
Sun Narin interview with Secretary of State

ซุน นะริน ผู้สื่อข่าววีโอเอภาคภาษาเขมร สัมภาษณ์แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันศุกร์ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการซ้อมรบของจีนในช่องแคบไต้หวัน

บลิงเคนกล่าวกับวีโอเอว่า จีนแสดงท่าทีที่ “ไม่สมดุลและเป็นอันตราย” ต่อการเดินทางเยือนไต้หวันของส.ส.แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ และว่า สหรัฐฯ จะไม่แสดงท่าที่ต่อการกระทำยั่วยุจากฝั่งตน

รมต. ต่างประเทศสหรัฐฯ ยังพูดคุยถึงประเด็นสถานการณ์ในเมียนมาที่ย่ำแย่ลง รวมทั้งมาตรการลงโทษเพิ่มเติมที่อาจมีขึ้น และระบุว่า สหรัฐฯ ต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชา และความสำคัญของการเสริมสร้างประชาธิปไตยในกัมพูชากับนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ขณะที่จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า

บทสัมภาษณ์ต่อไปนี้ได้รับการแก้ไขเพื่อความชัดเจน

วีโอเอ: คุณคิดเห็นอย่างไรต่อการเยือนไต้หวันของ ส.ส. เพโลซี ซึ่งตามมาด้วยท่าทีจากจีน

รมต. บลิงเคน: ส.ส. เพโลซี เป็นผู้ที่มาจากฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งมีความเป็นอิสระและมีสถานะเท่าเทียมกับรัฐบาล เธอมีสิทธิ์ที่จะเยือนไต้หวันได้เช่นเดียวกับสมาชิกสภาสหรัฐฯ หลายคนที่เคยเยือนไต้หวันมาแล้ว รวมทั้งในปีนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของจีนไม่สมดุลและเป็นอันตรายอย่างมาก แม้ว่าจีนจะรู้สึกต่อการเยือนไต้หวันครั้งนี้อย่างไรก็ตาม แต่ (จีนก็ทำถึงกับ) ยิงขีปนาวุธวิถีโค้ง 11 ลูก รวมทั้งมีการยิงขีปนาวุธข้ามไต้หวัน ขีปนาวุธห้าลูกตกลงใกล้ญี่ปุ่น มีการส่งเรือรอบไต้หวัน และผมคิดว่าคุณได้ยินจากประเทศต่าง ๆ ทั่วภูมิภาค รวมทั้งอาเซียนที่ออกแถลงการณ์ว่า มีความกังวลว่ากิจกรรมเหล่านี้อาจทำลายความมั่นคงและเป็นอันตราย

ผมคิดว่าการกระทำอย่างรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญมาก สหรัฐฯ จะไม่มีส่วนร่วมต่อการกระทำยั่วยุใด ๆ จากทางฝั่งเรา เราคิดว่าน่านน้ำควรมีความสงบ ช่องแคบไต้หวันมีความสำคัญอย่างมากต่อทุกประเทศในภูมิภาค เนื่องจากเป็นเส้นทางที่มีการค้าอย่างมาก หากมีเหตุขัดข้องเกิดขึ้นในบริเวณนี้ จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโลก และความต้องการของทุกคนที่ต้องการฟื้นฟู (เศรษฐกิจ) จากโควิด-19

เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าทุกประเทศ รวมทั้งสหรัฐฯ และจีน จะต้องกระทำการอย่างรับผิดชอบและไม่ใช้การเดินทางเยือนของสมาชิกสภาของเรา เป็นข้ออ้างในการทำกิจกรรมที่อาจเป็นอันตรายและทำลายความมั่นคง

วีโอเอ: เราเห็นสถานการณ์ที่แย่ลงในเมียนมา สหรัฐฯ จะออกมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเมียนมา รวมถึงต่อบริษัทน้ำมันและก๊าซหรือไม่

รมต. บลิงเคน: เราเห็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลง รวมทั้งการกระทำเลวร้ายอย่างการประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยสี่คน แม้ว่าอาเซียน กัมพูชา และอีกหลายฝ่ายจะขอให้เมียนมาไม่ให้ทำการประหารแล้วก็ตาม

ผมคิดว่า เราเห็นรัฐบาลเมียนมาที่ไม่ตอบสนองโดยสิ้นเชิงต่อทุกความพยายามในการแก้ไขวิกฤตที่เกิดจากการรัฐประหาร อาเซียนพยายามนำฉันทามติห้ามาปฏิบัติ โดยรัฐบาลเมียนมาลงนามในฉันทามตินี้เช่นกัน แต่กลับไม่ยินดีที่จะปฏิบัติตามแต่อย่างใด

(เราต้องการให้เมียนมา) ยุติความรุนแรง ปล่อยนักโทษ นำเมียนมากลับสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ เราคิดว่าประเทศต่าง ๆ หาทางกดดันรัฐบาลเมียนมาเพิ่ม อาจเป็นการกดดันทางเศรษฐกิจ การเมือง ฝ่ายต่าง ๆ ควรมีส่วนร่วมกับตัวแทนทุกฝ่ายของประชาชนชาวเมียนมา รวมทั้งรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ เราต้องกดดันรัฐบาลเมียนมาให้เปิดทางให้การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าถึงประชาชนในเมียนมาได้ เรายังต้องดูวิธีที่จะทำให้มั่นใจว่า อาวุธจะไม่ถึงมือรัฐบาลเมียนมา เพราะฉะนั้น เรามองถึงทุกวิถีทาง รวมทั้งการเพิ่มแรงกดดันและมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ

วีโอเอ: คุณคิดว่าอาเซียนควรทำอะไร นอกจากเพียงการไม่ให้รัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลทหารเมียนมาเข้าร่วมประชุม?

รมต. บลิงเคน: ผมคิดว่า เราต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงที่ว่า รัฐบาลเมียนมาปฏิเสธที่จะปฏิบัติและหาข้อสรุปจากฉันทามติห้าข้อ ผมว่า การสร้างความมั่นใจในตอนนี้ว่าจะมีตัวแทนที่ไม่ใช่ตัวแทนการเมืองในอาเซียน เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป ผมคิดว่าอาเซียนจะต้องดูว่าสิ่งนี้หมายความว่าอะไร รวมถึงการห้ามเมียนมา (ทำกิจกรรมบางประการชั่วคราว)

Secretary of State Antony Blinken, right, meets with Cambodian Prime Minister Hun Sen, left, at the Peace Palace in Phnom Penh, Cambodia, Aug. 4, 2022.
Secretary of State Antony Blinken, right, meets with Cambodian Prime Minister Hun Sen, left, at the Peace Palace in Phnom Penh, Cambodia, Aug. 4, 2022.

วีโอเอ: คุณได้เข้าพบนายกฯ ฮุน เซน คุณได้พูดคุยอะไรกับเขาบ้าง

รมต. บลิงเคน: เราสนทนาในหลายประเด็นมาก ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่ผมกล่าวคือ สหรัฐฯ ต้องการความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชา เราต้องการเสริมสร้างต่อจากรากฐานที่ดีอยู่แล้ว เราภูมิใจต่อข้อเท็จจริงที่ว่า สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ผมเห็นผู้ผลิตสินค้าบางประเภท เช่น มะม่วงหิมพานต์ มะม่วง ที่เราช่วยให้พวกเขาเปิดตลาดในต่างประเทศได้

เรายังภูมิใจที่สามารถบริจาควัคซีนต้านโควิด-19 ให้กัมพูชาได้โดยไม่มีข้อผูกมัด เพื่อช่วยกัมพูชารับมือกับโรคระบาด อีกสิ่งที่ผมภูมิใจมากเช่นกันคือ เราคืนโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่ถูกขโมยจากกัมพูชากลับคืนสู่ประเทศ และทำให้มั่นใจว่าโบราณวัตถุกลับคืนสู่กัมพูชาจริง ๆ เพื่อปกป้องวัฒนธรรม

เราทำงานเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์เหล่านั้น ทำงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ เรายังหารือถึงความสำคัญของการเสริมสร้างประชาธิปไตยในกัมพูชา และทำให้มั่นใจว่าการเลือกตั้งจะเดินหน้าต่อไปในปีหน้า เป็นตัวแทนของประชาชน และทุกฝ่ายมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ซึ่งการเลือกตั้งที่มีหลายพรรคลงแข่งขันก็เป็นสิ่งที่กัมพูชาเคยมีมาก่อนแล้ว

สหรัฐฯ ไม่ได้สนับสนุนผู้ใดหรือพรรคใดเป็นพิเศษ เราสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยที่เปิดทางให้ทุกคนในกัมพูชารู้สึกว่า พวกเขามีตัวแทนจากการเลือกตั้งและในรัฐบาล

วีโอเอ: หากกัมพูชาไม่สามารถจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์และยุติธรรมได้ ผลที่ตามมาอาจมีอะไรบ้าง

รมต. บลิงเคน: ผมจะไม่กล่าวถึงเรื่องสมมติ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม มันเป็นความหวังทั้งหมดเพื่อความสัมพันธ์ของเรา นี่เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะต่อประชาชนในกัมพูชา นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ แต่ก็เป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ใส่ใจด้วย รัฐสภาของเรา ประธานาธิบดีของเรา ใส่ใจเรื่องนี้ มันเป็นส่วนหนึ่งของดีเอ็นเอของเรา เรามีความท้าทายต่อประชาธิปไตยของเราเองเช่นกัน แต่เรารับมือกับมันอย่างเปิดเผย โปร่งใส และตรงไปตรงมาอย่างมาก สิ่งที่เราขอทั้งหมดมีเพียงแค่ ขอให้ประเทศต่าง ๆ พยายามมีระบบที่ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขามีตัวแทน

วีโอเอ: คำถามสุดท้ายเกี่ยวกับฐานทัพเรือเรียม เกิดอะไรขึ้นกับกองทัพจีนและสหรัฐฯ ทางสหรัฐฯ จะขอเข้าชมฐานทัพดังกล่าวอีกหรือไม่หลังการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว

รมต. บลิงเคน: อย่างแรกเลยคือ เราต้องมั่นใจว่ากัมพูชามีนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระอย่างแท้จริง และไม่รู้สึกถูกกดดันจากฝ่ายใดก็ตาม เมื่อกล่าวถึงฐานทัพเรือเรียมแล้ว ผมคิดว่าประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคจะกังวลอย่างมาก หากประเทศใดก็ตามควบคุมหรือใช้ส่วนหนึ่งของฐานทัพนี้ หรือกระทำการใดที่เป็นบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ผมคิดว่า การมีความโปร่งใสและรับรองว่าฐานทัพนี้เปิดรับทุกฝ่าย ไม่ได้เป็นไปเพื่อการใช้งานโดยประเทศใดประเทศหนึ่ง เป็นเรื่องสำคัญ

  • ที่มา: วีโอเอ
XS
SM
MD
LG