ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เผยยุทธศาสตร์ใหม่เอาชนะจีน "แบบไม่แตกแยก"


FILE - Secretary of State Antony Blinken speaks during a news conference on March 17, 2022, at the State Department in Washington.
FILE - Secretary of State Antony Blinken speaks during a news conference on March 17, 2022, at the State Department in Washington.

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ประกาศนโนบายสำคัญว่าด้วยยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเอาชนะจีนในการแข่งขันในช่วง 10 ปีข้างหน้า แต่ยืนยันว่า จะพยายามไม่ทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างเศรษฐกิจของสองประเทศ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ประกาศนโยบายสำคัญว่าด้วยยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการเอาชนะจีนในการแข่งขันในช่วง 10 ปีข้างหน้า ด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรเพื่อเสริมความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน ควบคู่ไปกับการป้องกันวิกฤติต่าง ๆ

รัฐมนตรีบลิงเคน กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ มิได้พยายาม "แตกแยก" กับจีนในด้านเศรษฐกิจและการค้า สหรัฐฯ จะไม่ทำให้เศรษฐกิจจีนต้องแตกแยกออกจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือเศรษฐกิจโลก แต่สหรัฐฯ จะปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง พร้อมไปกับการทำให้ทั้งสองประเทศอยู่ร่วมกันได้

รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า การแข่งขันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ นั้น "ไม่ใช่สงครามเย็นยุคใหม่" และไม่ใช่ "การแบ่งแยกโลกออกเป็นสองขั้วที่มีแนวคิดแตกต่างกัน" แต่เป็นการค้ำจุนและฟื้นฟูระเบียบโลกเพื่อปกป้องหลักการสำคัญ และว่า "สหรัฐฯ ยินดีทำการค้าและการลงทุนกับจีน ตราบเท่าที่มีความโปร่งใส ยุติธรรม และมั่นคงปลอดภัย"

ทั้งนี้ คำกล่าวของ รมต.บลิงเคน ที่มหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ในกรุงวอชิงตัน ในวันพฤหัสบดี มุ่งเน้นที่สามหัวข้อหลัก คือ "ลงทุน เข้าร่วม และแข่งขัน" โดยรมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ อธิบายความพยายามของสหรัฐฯ ตลอดจนการทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรและประเทศคู่ค้าเพื่อรักษาและยกระดับกฎระเบียบระหว่างประเทศ หลังจากที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปฏิบัติหน้าที่มาร่วม 16 เดือนแล้ว

รมต.บลิงเคน กล่าวถึงยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ ในการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ เอง และดำเนินการไปในแนวทางเดียวกันกับชาติพันธมิตรเพื่อแข่งขันกับจีนในทุกด้าน

ทางทำเนียบขาวชี้ว่า กฎหมายปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจทั่วประเทศ หรือ Infrastructure Investment and Jobs Act ที่ผ่านรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอเมริกา เพิ่มการจ้างงาน ลดแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อและเพิ่มความเข้มแข็งของห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ ได้

บทวิเคราะห์ชิ้นใหม่ของ Bloomberg Economics เมื่อเร็ว ๆ นี้ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้อาจขยายตัวในระดับเฉลี่ยทั้งปีสูงกว่าเศรษฐกิจจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1976 หรือ 46 ปีที่แล้ว

US Secretary of State to Clarify US Policy Toward China
please wait

No media source currently available

0:00 0:03:22 0:00

ความมั่นคง: ประเด็นไต้หวัน และซ้อมรบร่วมกันของจีน-รัสเซีย

แม้กำลังเกิดสงครามในยูเครนจากการรุกรานของรัสเซีย และภัยคุกคามต่อยุโรป แต่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันว่า จีนยังคงเป็นความท้าทายอันดับหนึ่งในปัจจุบัน "ซึ่งสร้างความท้าทายมากที่สุดในระยะยาวต่อระเบียบโลก"

ในประเด็นที่เกี่ยวกับไต้หวัน รมต.บลิงเคน เน้นย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลกรุงวอชิงตันที่ยังคงยึดมั่นใน "นโยบายจีนเดียว" หลังจากที่ประธานาธิบดีไบเดนได้กล่าวไว้ระหว่างการเยือนเอเชียว่า สหรัฐฯ จะแทรกแซงทางทหารเพื่อปกป้องไต้หวันหากจีนใช้กำลังรุกราน ซึ่งต่อมาผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันเช่นกันว่า จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ในส่วนที่เกี่ยวกับไต้หวัน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธว่า สหรัฐฯ ได้เปิดช่องทางการสื่อสารกับจีนขึ้นใหม่ตามที่ปธน.ไบเดน เสนอไว้ เพื่อลดการตีความผิด ๆ ในการสื่อสารระหว่างสองประเทศ และเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแผนจัดการประชุมระดับผู้นำระหว่างปธน.ไบเดน กับปธน.สี ในช่วงนี้แต่อย่างใด

ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ จีนและรัสเซียซ้อมลาดตระเวนทางอากาศร่วมกันเหนือทะเลญี่ปุ่น ทะเลจีนตะวันออกและมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก ซึ่งถือเป็นการซ้อมปฏิบัติการทางทหารครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียบุกรุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเกิดขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังเยือนเอเชียเพื่อร่วมประชุมจตุภาคีกลุ่ม Quad

ที่ผ่านมา จีนปฏิเสธที่จะประณามรัสเซียที่รุกรานยูเครน โดยก่อนที่จะเกิดสงครามในยูเครน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้ร่วมประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ "แบบไม่มีข้อจำกัด" ระหว่างจีนและรัสเซีย

คำถามเรื่องสิทธิมนุษยชนในจีน

ก่อนหน้านี้มีการคาดกันว่า รมต.บลิงเคน จะหยิบยกประเด็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศจีนขึ้นมาพูดอีกครั้งในการปราศรัยในวันพฤหัสบดี ซึ่งรวมถึงการสังหารล้างเผ่าพันธุ์และการก่ออาชญากรรมต่อชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง

โดยก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยข้อมูลลับที่เรียกว่า 'แฟ้มตำรวจมณฑลซินเจียง' ซึ่งสำนักข่าวบีบีซีระบุว่า "เป็นข้อมูลจากการลอบเจาะล้วงข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของตำรวจในซินเจียง" ซึ่งรวมถึงภาพถ่ายหลายพันรูปและเอกสารจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลจีนได้มุ่งเป้าไปที่ชาวมุสลิมอุยกูร์สืบเนื่องจากเชื้อชาติและศาสนาของพวกเขา

ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้ว ไมค์ พอมเพโอ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ คนก่อน ได้ระบุอย่างเป็นทางการว่า นโยบายของจีนต่อชาวอุยกูร์นั้นเข้าข่ายการสังหารล้างเผ่าพันธุ์และการก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษย์ ซึ่งต่อมา รมต.บลิงเคน ได้ยืนยันสถานะเดิมของจีนในกรณีนี

  • ที่มา: วีโอเอ และรอยเตอร์
XS
SM
MD
LG