ผู้แทนรัฐบาลกรุงวอชิงตันที่เดินทางเยือนกรุงไทเปในสัปดาห์นี้ ประกาศย้ำ ความสัมพันธ์ระหว่างสองฝ่ายยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่ความตึงเครียดในแถบช่องแคบไต้หวันเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
คริสโตเฟอร์ ดอดด์ อดีตสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ พร้อม เจมส์ สไตนเบิร์ก และ ริชาร์ด อาร์มิทาจ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคณะผู้แทนอย่างไม่เป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐฯ เดินทางถึงไต้หวันตั้งแต่วันพุธ เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนไต้หวันและระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยของเกาะแห่งนี้
และในวันพฤหัสบดี คณะผู้แทนอย่างไม่เป็นทางการของสหรัฐฯ ได้เข้าพบ ประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน โดย ดอดด์ ยืนยันว่า ความเป็นหุ้นส่วนระหว่างทั้งสองนั้น “เหนียวแน่นเข้มแข็งกว่าที่เคยเป็นมาแล้ว” และย้ำว่า รัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะเดินหน้าพิสูจน์ตนในฐานะ “สหายที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้” ซึ่งจะช่วยให้ไต้หวันขยายน่านฟ้าสากลของตน และ “สนับสนุนการลงทุนในด้านกลาโหม” ด้วย
ขณะเดียวกัน ปธน.ไช่ บอกกับผู้แทนจากสหรัฐฯ ว่า ไต้หวันเองยินดีที่จะทำงานร่วมกับ “ประเทศที่มีแนวทางความคิดเดียวกัน” ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ เพื่อที่จะร่วมกันปกป้องสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และยับยั้งการยั่วยุปลุกปั่นและการกรีธาทัพทั้งหลายที่นำมาซึ่งอันตรายต่อภูมิภาคนี้
การเดินทางเยือนไต้หวันโดยตัวแทนสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นทางการครั้งนี้ เกิดขึ้นขณะที่จีนเดินหน้าสั่งสมกำลังทหารใกล้ๆ ไต้หวันอยู่ โดยกระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า มีเครื่องบินรบของจีนจำนวน 25 ลำบินเข้ามาในเขตป้องกันภัยทางอากาศทางแถบภาคใต้ของเกาะ
และเพื่อตอบโต้ท่าทีรุกลำของจีน ไต้หวันได้เริ่มเสริมกำลังทางทหารของตนเพิ่มขึ้น อันรวมถึง เรืออู่ลำเลียงพลสะเทินน้ำสะเทินบกลำใหม่ขนาด 10,000 ตัน ที่เพิ่งเปิดตัวที่เมืองท่าเกาสง ในวันอังคารนี้ด้วย