ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ผู้เชี่ยวชาญคาด ปธน.สหรัฐฯ คนต่อไปต้องรับศึกเศรษฐกิจหนัก


Business News
please wait

No media source currently available

0:00 0:06:02 0:00


แม้ว่ายังไม่มีความแน่นอนว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีนี้ นักวิเคราะห์มองตรงกันว่า ผู้ที่จะขึ้นมาบริหารรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากนี้ จะต้องเผชิญกับศึกหนักและความท้าทายทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่อย่างแน่นอน

สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ในปัจจุบันคือสภาพการณ์ที่ย่ำแย่มากหลังทำให้ผลผลิตทางเศรษฐกิจในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมาอันตรธานไป และทำให้การขยายตัวของการจ้างงานที่ดำเนินมากว่า 5 ปีหยุดชะงักลง

ขณะเดียวกัน แม้การใช้จ่ายของผู้บริโภคจะเริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่โดยรวมนั้นยังไม่ได้ดีมาก และราคาบ้านที่อยู่อาศัยซึ่งเริ่มสูงขึ้นกลับมาเป็นปัญหาหนักของผู้ที่ต้องการซื้อบ้านในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน

และถึงตัวเลขกิจกรรมภาคการผลิต โดยเฉพาะในพื้นที่แทบภาคตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริเวณที่ตั้งของรัฐสมรภูมิของการเลือกตั้ง จะบ่งบอกว่าเริ่มมีการฟื้นตัวแล้ว อัตราการว่าจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมนี้ยังถือว่าแย่อยู่เช่นกัน

นอกจากนั้น การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ยังดำเนินอยู่ในสหรัฐฯ และทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 6,000 คนในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่งทำสถิติการติดเชื้อรายวันสูงสุดที่กว่า 100,000 คนเมื่อวันพุธ ทำให้เกิดความกังวลว่า สหรัฐฯ อาจจะต้องกลับมาใช้มาตรการล็อคดาวน์ดังเช่นในยุโรปอีกครั้งในเร็วๆ นี้

ทั้งหมดนี้ ชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ หรือ อดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะเป็นผู้กำชัยชนะการเลือกตั้งในปีนี้ ผู้นำประเทศคนถัดไปจะต้องรับกับศึกหนักเพื่อกู้เศรษฐกิจ รวมทั้งประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ปัญหาความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ภาระหนี้รัฐบาลที่พุ่งสูงต่อเนื่อง และความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่าง่ประเทศที่ตึงเครียดด้วย

ในด้านแนวทางนโยบายรัฐบาลหลังจากนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า หาก ปธน.ทรัมป์ ชนะ ภาพรวมคือจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น แต่มีโอกาสสูงที่ รัฐบาลจะออกแผนกระตุ้นออกมาเพิ่มได้ ตามสัญญาในระหว่างการหาเสียง

แต่ถ้าอดีตรองปธน.ไบเดน เป็นผู้ชนะ และพรรครีพับลิกันยังคงคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา ความพยายามผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลนโยบายสำคัญๆ จะกลายเป็นเรื่องที่ยาก และการดำเนินงานของรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขนี้ อาจจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีหน้า ฟื้นตัวได้ลำบากขึ้นด้วย

XS
SM
MD
LG