จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 250,000 คนแล้ว หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 1,100 คนติดต่อกันหลายวัน ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งผ่านหลัก 11.5 ล้านคน
เวลานี้สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเพิ่มขึ้นในระดับเฉลี่ยเกือบ 160,000 คนต่อวัน ซึ่งมากกว่าตัวเลขเมื่อเดือนที่แล้วราว 3 เท่า ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขในรัฐต่าง ๆ ต้องทำงานอย่างหนัก
ผู้ว่าการรัฐและนายกเทศมนตรีเมืองต่าง ๆ ออกมาประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในการรับมือการระบาดระลอกใหม่ เช่น ที่รัฐนิวยอร์ก มีการประกาศปิดการเรียนการสอนในโรงเรียนทั้งหมด เริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้ หลังจากที่อัตราการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับประมาณ 3%
ที่รัฐมินเนโซตา ผู้ว่าการรัฐ ทิม วอลซ์ ประกาศปิดร้านอาหาร บาร์และยิมต่าง ๆ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ หลังจากที่ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 4 เท่าจากระดับเมื่อเดือนที่แล้ว
ขณะเดียวกันเกิดความกังวลว่างานฉลองเทศกาลขอบคุณพระเจ้าในสัปดาห์หน้า ซึ่งชาวอเมริกันหลายล้านคนจะเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารกับสมาชิกในครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง อาจส่งผลให้เกิดการระบาดกระจายในวงกว้างมากขึ้น
ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย ราล์ฟ นอร์แธม กล่าวขอร้องให้ประชาชนฉลองแต่ภายในบ้านของตนเอง ซึ่งถือเป็น "การแสดงความรัก" ที่ดีที่สุด แต่หากจำเป็นต้องฉลองร่วมกับครอบครัวอื่น ขอให้เป็นกลุ่มเล็ก ๆ และอยู่ภายนอกบ้านหรือตัวอาคารเพื่อให้เกิดการถ่ายเทอากาศ
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชน อเล็กซ์ อซาร์ แสดงความหวังว่าสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯ จะสามารถอนุมัติวัคซีนโควิด-19 ได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และมีวัคซีนราว 40 ล้านโดสที่พร้อมจะแจกจ่ายให้แก่ประชาชนภายในสิ้นปีนี้ โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดจะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับวัคซีน
สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศอื่น
เจ้าหน้าที่กรุงโตเกียวประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยจากการระบาดของโคโรนาไวรัสเป็นระดับสูงสุดจากทั้งหมด 4 ระดับ หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 534 คน
รัสเซียมีผู้ติดเชื้อสะสมเกินระดับ 2 ล้านคนในวันพฤหัสบดี โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 23,610 รายใน 24 ชม. ถือเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมมากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐฯ อินเดีย และบราซิล ตามลำดับ
