ลิ้งค์เชื่อมต่อ

จนท.สาธารณสุข ชี้ ทรัมป์ขวางการรับมือวิกฤตโควิด-19 โดยปิดกั้นการถ่ายโอนอำนาจให้ไบเดน


President-elect Joe Biden speaks at The Queen theater, Nov. 10, 2020, in Wilmington, Delaware.
President-elect Joe Biden speaks at The Queen theater, Nov. 10, 2020, in Wilmington, Delaware.

ขณะที่วิกฤตโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐฯ กำลังรุนแรงหนัก ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์หลายรายออกมาเตือนว่า การที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่สามารถสื่อสารและโอนถ่ายข้อมูลสำคัญๆ ให้กับทีมงานรัฐบาลใหม่เพื่อประสานงานการรับมือกับการระบาดให้มีประสิทธิภาพได้

นายแพทย์ อาทุล กาวานดี หนึ่งในที่ปรึกษาด้านโควิด-19 ของว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการ This Week ทางสถานีโทรทัศน์ ABC ว่า การที่ทีมงานรับผิดชอบการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการประเมินภัยคุกคาม ได้เข้าใจถึงแผนการแจกจ่ายวัคซีน ได้รับรู้ว่ามีการเก็บอุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์ที่จำเป็นไว้ที่ใดบ้าง และสถานภาพของหน้ากากและถุงมือการแพทย์เป็นอย่างไร ล้วนเป็นสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติทั้งสิ้น

แต่นายแพทย์ กาวานดี กล่าวด้วยว่า มีข้อมูลมากมายที่รอการถ่ายโอนมายังทีมงานอยู่ และไม่ควรจะมีการเสียเวลารอจนถึงนาทีสุดท้ายเลย

ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ยืนยันปฏิเสธการพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนและดำเนินการต่อสู้คดีในชั้นศาลมากมายด้วยข้อกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันยังเดินหน้าปิดกั้นไม่ให้ทีมงานรัฐบาลและหน่วยงานรัฐทั้งหลายร่วมมือกับทีมงานรับผิดชอบการเปลี่ยนถ่ายอำนาจของว่าที่ปธน.ไบเดน

นายแพทย์ แอนโธนี เฟาชี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้ออันดับต้นๆ ของประเทศ และผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐฯ บอกกับสถานีข่าว CNN ว่า ตนเห็นด้วยว่า จะเป็นการดีกว่ามาก ถ้าหากทั้งสองทีมสามารถเริ่มต้นความร่วมกันในเวลานี้

นายแพทย์เฟาชี่ ยังเปรียบเทียบความสำคัญของการส่งมอบข้อมูลที่จำเป็นให้กับทีมงานรัฐบาลใหม่ ว่าเหมือนการวิ่งผลัด ที่นักวิ่งต้องส่งไม้ต่อให้กับนักวิ่งคนถัดไปโดยไม่หยุดวิ่ง เพื่อให้กระบวนการต่างๆ เดินหน้าโดยไม่สะดุด

ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมากติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ตัวเลขผู้ป่วยสะสมในสหรัฐฯ ณ บ่ายวันจันทร์ขึ้นมาอยู่ที่กว่า 11.1 ล้านราย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 246,600 ราย ตามข้อมูลของ มหาวิทยาลัย จอนส์ ฮอพกินส์

ขณะเดียวกัน นายแพทย์เฟาชี่ให้ความเห็นว่า ด้วยความสำเร็จของการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ที่มีการประกาศออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ มีความเป็นไปได้ว่า สหรัฐฯ จะได้กลับเข้าสู่เส้นทาง “การใช้ชีวิตแบบปกติ” ประมาณเดือนเมษายนหรือเดือนกรกฎาคมของปีหน้า

พลเรือเอก นายแพทย์ เบรทท์ จิรอร์ จาก หน่วยทหารสัญญาบัตรบริการสาธารณสุขสหรัฐฯ กล่าวว่า ความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาวัคซีน อย่างเช่นของบริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) ถือเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” แต่ย้ำว่า การที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้สหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะคับขัน และการที่ไม่มีการเตรียมเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากรัฐบาลของปธน.ทรัมป์ ไปยังทีมงานของว่าที่ปธน.ไบเดน คือสิ่งที่น่าหนักใจ

XS
SM
MD
LG