สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น กล่าวในวันอาทิตย์ว่าทั้งสามประเทศจะร่วมลงทุนก่อสร้างสายเคเบิล ใต้ทะเลเพื่อเพิ่มการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตให้กับประเทศขนาดเล็กที่ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกสามประเทศ ในช่วงเวลาที่ประเทศพันธมิตรตะวันตกหาทางต้านทานอิทธิพลของจีนที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาค
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าประเทศที่จะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่เร็วขึ้นจากสายเคเบิลใต้ทะเลดังกล่าว คือสาธารณรัฐนาอูรู คิริบาส และ สหพันธรัฐไมโครนีเซีย
ในแถลงการณ์ร่วม สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นกล่าวว่า สายเคเบิลใต้ทะเลจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โอกาสในการพัฒนาประเทศ และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตในประเทศมหาสมุทรแปซิฟิก ที่กำลังฟื้นตัวหลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19
อย่างไรก็ตามประเทศพันธมิตรทั้งสามไม่ได้ให้รายละเอียดว่าโครงการดังกล่าวจะใช้เงินทุนเท่าใด
การก่อสร้างเคเบิลใต้ทะเลเป็นโครงการล่าสุดที่ประเทศพันธมิตรตะวันตกลงทุนร่วมกันเพื่อพัฒนาการสื่อสารและโทรคมนาคมในมหาสมุทรแปซิฟิก
สหรัฐฯ และพันธมิตรของกรุงวอชิงตันที่อยู่ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มีความกังวลว่าสายเคเบิลที่ประเทศจีนได้ก่อสร้างขึ้นนั้น จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงในภูมิภาค ที่ผ่านมารัฐบาลกรุงปักกิ่งได้ปฏิเสธว่าไม่มีเจตนาที่จะใช้สายเคเบิลทางพาณิชย์ ซึ่งสามารถรองรับข้อมูลได้มากกว่าดาวเทียม เพื่อสอดแนมประเทศอื่น ๆ
ในปี ค.ศ.2017 ออสเตรเลียลงทุนกว่า 98.2 ล้านดอลลาร์ในการพัฒนาการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตให้กับหมู่เกาะโซโลมอน และปาปัวนิวกินี