ลิ้งค์เชื่อมต่อ

นักการเมืองหญิงกำลังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ทั่วโลก


please wait

No media source currently available

0:00 0:04:08 0:00

รายงานของสหภาพรัฐสภาหรือ IPU พบว่า ในปี ค.ศ. 2017 จำนวนสมาชิกรัฐสภาที่เป็นผู้หญิงทั่วโลกได้เพิ่มมากขึ้นราว 1 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า โดยไปอยู่ที่เกือบร้อยละ 24 ในขณะที่สัดส่วนของรัฐมนตรีหญิงได้เพิ่มขึ้นไปอยู่ในระดับที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่เกือบร้อยละ 21

ฟูมซีล มลามโบ งคูกา (Phumzile Mlambo-Ngcuka) ผู้อำนวยการบริหารแห่งองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Women แถลงข่าวร่วมกับประธานของสหภาพรัฐสภาหรือ IPU ที่เป็นผู้ออกรายงานนี้ โดยบอกว่ายังมีผู้ชายในรัฐสภาถึงร้อยละ 75 ซึ่งถือว่าสูงมาก ผู้ชายเหล่านี้เป็นผู้บัญญัติกฏหมายออกมาบังคับใช้ในนามของประชาชนทุกคน

เกเบรียล่า คูเอวาส แบร์รัน (Gabriela Cuevas Barron) ประธานของสหภาพรัฐสภากล่าวว่า ยังมีการเปลี่ยนแปลงด้านตำแหน่งของรัฐมนตรีหญิงอีกด้วย ผู้หญิงยังเดินหน้ารั้งตำเเหน่งผู้นำด้านกิจการที่เกี่ยวกับสังคมเเละครอบครัว เด็กและเยาวชน

อย่างไรก็ตาม มีผู้หญิงขึ้นดำรงตำเเหน่งรัฐมนตรีทางอุตสาหกรรมและการค้าที่สำคัญๆเพิ่มมากขึ้นทั่วโลกเป็นครั้งเเรก เเละที่สำคัญ มีผู้หญิงจำนวนมากขึ้นที่ขึ้นดำรงตำเเหน่งที่เคยเป็นของผู้ชาย

เธอกล่าวว่า ในปี ค.ศ. 2018 มีรัฐมนตรีหญิงมากขึ้นร้อยละ 30 ที่ดูแลด้านการทหาร ในด้านที่ดูแลด้านการเงินก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.9 เเละในด้านกิจการต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ในทางกลับกัน สหภาพรัฐสภาชี้ว่าการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในด้านของการเป็นผู้นำระดับสูง ลดลงมาจากร้อยละ 7.2 ของผู้นำประเทศที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ไปอยู่ที่ร้อยละ 6.6 เเละจากร้อยละ 5.7 ของผู้นำรัฐบาลไปเป็นร้อยละ 5.2 นอกจากนี้ยังมี 11 ชาติที่ไม่มีรัฐมนตรีหญิงเลย

กุญแจสำคัญหลักในการปรับปรุงการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในการเมืองเเละการลดความไม่เท่าเทียมทางเพศ คือระบบโควต้า

ประธานสหภาพรัฐสภา กล่าวว่า ผลการวิเคราะห์พบว่าประเทศต่างๆ ที่มีระบบโควต้าทางเพศ ที่ออกแบบอย่างดี จะมีผู้หญิงได้รับการเลือกตั้งเข้าสู่รัฐสภาในจำนวนที่สูงกว่าอย่างมาก เธอกล่าวว่า หากผู้หญิงสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสภาบันหลายอย่างให้เกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมก็จะตามมา แต่ระบบโควต้าจะได้ผลก็ต่อเมื่อมีการนำไปใช้งานจริงๆ

ประธานาธิบดีของโครเอเชีย โคลินดา กราปาร์ กิทาโรวิค (Kolinda Grabar-Kitarović) กล่าวว่า ในตัวบทกฏหมายมีความเท่าเทียมทางเพศที่เกือบถือได้ว่าเกือบสมบูรณ์แบบ แต่ที่ขาดไปคือการนำไปบังคับใช้ ผู้นำหญิงของโครเอเชียกล่าวว่าโครเอเชียมีระบบโควต้าในรัฐสภา เเต่ไม่มีพรรคการเมืองใดที่เคารพในเรื่องนี้

ประธานาธิบดีหญิงของโครเอเชียกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งที่เเล้วของประเทศ เเสดงให้เห็นว่ามีจำนวนผู้หญิงชนะการเลือกตั้งน้อยลงกว่าในตอนที่ประเทศได้รับเอกราชในปี ค.ศ. 1991 พรรคการเมืองต่างๆ ยอมจ่ายค่าปรับแทนการเคารพต่อระบบโควต้า

โครเอเชียจัดอยู่ในอันดับที่ 98 จากทั้งหมด 191 ชาติที่มีจำนวนผู้หญิงในรัฐสภามากที่สุด ตามในรายงานของสหภาพรัฐสภา

ประเทศไอซเเลนด์ที่จัดอยู่ในอันดับที่ 21 ไม่มีความคืบหน้าทางบวกในเรื่องนี้ ในปี ค.ศ. 2016 เกือบมีความเท่าเทียมกับทางเพศในรัฐสภา เเต่ในการเลือกตั้งปี ค.ศ. 2017 จำนวนผู้หญิงในรัฐสภาได้ลดลงไปอยู่ที่ร้อยละ 38

คาทริน เจคอปโสเทีย (Katrín Jakobsdóttir) นายกรัฐมนตรีหญิงของไอซเเลนด์ กล่าวว่า พรรคการเมืองส่วนใหญ่ของไอซเเลนด์มีระบบโควต้า เเต่ไม่ทั้งหมดเเละจะเห็นได้จากผลการเลือกตั้ง

ผู้นำหญิงของไอซแลนด์คิดว่าจำเป็นต้องมีมาตรการเด็ดขาดมาใช้บังคับ นอกจากว่าเรายังต้องการยืนอยู่จุดเดิมเเละถกกันถึงความเท่าเทียมทางเพศต่อไปอีกหนึ่งร้อยปีข้างหน้า

(เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)

XS
SM
MD
LG