รถอาร์วีหรือรถเพื่อกิจกรรมสันทนาการ กลายเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวอเมริกัน
มารี เดอเคีย โรมางอลิ ซื้อรถอาร์วีเมื่อปีที่แล้ว เพื่อใช้เป็นบ้านพักขนาดจิ๋วติดล้อเพื่อขับตระเวณไปตามงานเทศกาลดนตรี ภายในรถอาร์วีมีห้องนอน มีห้องครัวเล็กที่มีพื้นที่พอสำหรับสองคน มีตู้เย็นและตู้อบไมโครเวฟเล็กๆ ใช้ได้กับทั้งไฟฟ้า แก๊สหรือเเบตเตอรี่
รถอาร์วีมีความครบครัน ใช้เดินทางได้ เเละเป็นหนทางของการเดินทางท่องเที่ยวที่ไม่แพง ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวธรรมดาๆทั่วไปสำหรับครอบครัวอเมริกันที่มีสมาชิก 4 คนลงมาได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์
โรมางอลิบอกว่า รถอาร์วีคันนี้ของเธอมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาที่ 1,270 กิโลกรัม สามารถใช้รถยนต์ธรรมดาลากได้สบาย เธอเดินทางไปตามเทศกาลดนตรีตลอดเวลาเเละต้องการความสะดวกสบาย เธอเบื่อการนอนหลับในเต้นท์
มีรถอาร์วีที่คนนิยมใช้กันสองเเบบ อย่างเเรก คือ "รถเทรลเลอร์ล้อที่ห้า" ซึ่งใช้ยึดเข้ากับท้ายของรถยนต์ และรถอาร์วีชนิดที่เรียกว่า "แคมเปอร์" ที่ใหญ่โตเหมือนรสบัสเเละไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ลาก
แต่เเม้ว่าบทบาทของรถอาร์วีคือบ้านแบบย่อส่วน รถอาร์วีอาจมีขนาดเล็กแต่มีพื้นที่ใช้สอยหรูหรา อย่างเช่นรถอาร์วีของคุณจูลี่ บาวด์ ที่มีทั้งเตาทำอาหาร ตู้เย็น มีน้ำร้อนเเละเตียงนอน 8 หลัง
บาว์ด บอกว่า บนรถมีทั้งเครื่องซักผ้า เครื่องปั่นผ้าแห้งและมีห้องอาบน้ำเเละสุขาเล็กๆ เป็นที่พักที่สะดวกสบาย ไม่ต้องไปพักโรงเเรมหรือนอนกางเต้นท์
ส่วนคุณเจนเน็ท บรีดเดนท์ เจ้าของรถอารืวีอีกคันหนึ่ง บอกว่าจะจอดพักตรงไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นชายทะเลหรือที่อื่นๆ
ใครก็สามารถเป็นเจ้าของรถอาร์วีได้เพราะไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตพิเศษเเต่ต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพราะขนาดของรถอาร์วีอาจทำให้มีจุดบอดมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าของรถอาร์วีสักคันเพื่อความสะดวกสบายในการเดินทางท่องเที่ยวอาจต้องใช้เงินพอสมควร เพราะสนนราคารถอาร์วีคันหนึ่งเริ่มต้นที่ 10,000 ถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐฯทีเดียว
(ทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
l>
