ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รัสเซียเดินหน้ายิงขีปนาวุธถล่มยูเครน


A local woman walks to the distribution point of humanitarian aid in front of housing which was damaged by Russian shelling in Kupiansk, Kharkiv region, Ukraine, Dec. 28, 2022.
A local woman walks to the distribution point of humanitarian aid in front of housing which was damaged by Russian shelling in Kupiansk, Kharkiv region, Ukraine, Dec. 28, 2022.

กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตียูเครนในวันพฤหัสบดีด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มหลายเมือง รวมถึงกรุงเคียฟ

ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า “ความป่าเถื่อนอย่างไร้สติ คือ คำที่เข้ามาในสมองเมื่อเห็นรัสเซียส่งขีปนาวุธเข้ามาถล่มเมืองอันเงียบสงบทั้งหลายของยูเครนอีกชุด ก่อนวันปีใหม่” และว่า “ไม่มีคำว่า ‘ความเป็นกลาง’ ในอาชญากรรมสงครามเช่นนี้ ... การเสแสร้งว่า ‘เป็นกลาง’ เท่ากับว่า เข้าข้างรัสเซียนั่นเอง”

ขณะเดียวกัน มีไคโล โพลโดยัก ที่ปรึกษาประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ทวีตข้อความออกมาว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าถล่มยูเครนอย่างน้อย 120 ลูก “เพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญและฆ่าพลเรือนยกกลุ่ม”

การโจมตีครั้งล่าสุดนี้ทำให้สัญญาณเตือนการโจมตีทางอากาศดังไปทั่วยูเครน

ขณะที่ เจ้าหน้าที่กรุงเคียฟยอมรับว่า ระบบป้องการกันการโจมตีทางอากาศบางส่วนเสียหายเพราะขีปนาวุธระลอกล่าสุด กองทัพยูเครนระบุว่า สามารถยิงขีปนาวุธของรัสเซียยิงเข้ามา 54 ลูกจากทั้งหมดที่ตรวจจับได้ 69 ลูก

ทั้งนี้ รัสเซียใช้ขีปนาวุธยิงถล่มเมืองต่าง ๆ ของยูเครนมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ หลายแห่งของประเทศไปแล้ว

ออกซานา มาร์คาโรวา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ ทวีตข้อความในวันพฤหัสบดีด้วยว่า “เมื่อถึงจุดหนึ่ง พวกผู้ก่อการร้ายรัสเซียก็จะไม่มีขีปนาวุธใช้ แต่ชาวยูเครนจะไม่มีวันที่จะไร้ซึ่งความกล้าหาญ หยุดอุทิศตนให้กับเสรีภาพและประชาธิปไตย และหมดรักในประเทศของเรา”

การสู้รบในยูเครนยังดำเนินต่อไป หลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประกาศข้อเสนอแผนสันติภาพ 10 ข้อให้รัสเซีย แต่ทำเนียบเครมลินปฏิเสธและยืนยันว่า กรุงเคียฟต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่า พื้นที่ 4 เขตของตนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว

ในวันพุธ ปธน.เซเลนสกียังขึ้นกล่าวปราศรัยต่อหน้ารัฐสภาที่จัดการประชุมแบบปิด โดยร้องขอให้สมาชิกรัฐสภาร่วมสามัคคีกันตลอดไปเพื่อต้านการรุกรานของรัสเซีย พร้อมย้ำว่า คนทั่วโลกได้ประจักษ์ด้วยสายตาแล้วว่า ยูเครนสามารถประสบความสำเร็จในสนามรบจนได้เสรีภาพกลับคืนมาบ้างแล้ว และว่า กองทัพยูเครนสามารถปลดปล่อยเชลยศึกจำนวน 1,456 คนที่ถูกรัสเซียจับกุมไประหว่างการรุกรานที่ดำเนินมากว่า 10 เดือนนี้

  • ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์ และเอเอฟพี
XS
SM
MD
LG