ลิ้งค์เชื่อมต่อ

คนอเมริกันเกินครึ่งเชื่อการหารือสุดยอดกับเกาหลีเหนือช่วยลดความเสี่ยงสงครามนิวเคลียร์


U. S. President Donald Trump shakes hands with North Korea leader Kim Jong Un at the Capella resort on Sentosa Island, June 12, 2018 in Singapore.
U. S. President Donald Trump shakes hands with North Korea leader Kim Jong Un at the Capella resort on Sentosa Island, June 12, 2018 in Singapore.

แต่ 2 ใน 3 ของคนอเมริกันไม่เห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์ควรได้รางวัลโนเบล

หลังการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กับผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน คนอเมริกัน 54% ซึ่งตอบการสำรวจความเห็นของมหาวิทยาลัย Quinnipiac เชื่อว่า การหารือดังกล่าวช่วยลดโอกาสความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์ได้

ขณะที่ 37% เห็นว่าการพบปะหารือนี้ไม่ได้ทำให้โอกาสการเกิดสงครามลดน้อยลง

นอกจากนั้น 57% ของคนอเมริกัน ไม่คิดว่าการหารือระดับผู้นำครั้งนี้จะนำไปสู่สันติภาพระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ และ 70% ของผู้ตอบคำถามเหล่านี้ก็ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์หลังการประชุมที่ว่า เกาหลีเหนือไม่เป็นภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์อีกต่อไป

หลังการประชุมสุดยอดกับผู้นำเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ประธานาธิบดีทรัมป์ กับ นายคิม จอง อึน ได้ร่วมลงนามในเอกสารที่ประกาศว่าประเทศทั้งสองจะทำงานเพื่อลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีอย่างสมบูรณ์ และจะพยายามสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศขึ้น

อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผ่านมานั้นเกาหลีเหนือเคยให้สัญญาจะยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยปฏิบัติตาม

สำหรับคำถามที่ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์สมควรได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพสำหรับปีนี้หรือไม่ 66% ของผู้ที่เข้าร่วมการสำรวจของ มหาวิทยาลัย Quinnipiac ไม่เห็นด้วย ซึ่งก็ดูจะเป็นทัศนะที่ตรงกันข้ามกับความพยายามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ของพรรครีพับลิกัน 18 คน ที่ส่งจดหมายถึงคณะกรรมการพิจารณามอบรางวัลโนเบลเมื่อเดือนพฤษภาคม เพื่อเสนอชื่อประธานาธิบดีทรัมป์ให้คณะกรรมการนี้พิจารณาอย่างเป็นทางการ

สำหรับในเรื่องการทำงานในตำแหน่งประธานาธิบดี 52% ของคนอเมริกันไม่ยอมรับผลงานของประธานาธิบดีทรัมป์ เมื่อเทียบกับ 43% ที่สนับสนุน และคนอเมริกันในสัดส่วนที่พอๆ กัน คือ 53% กล่าวว่าตนเชื่อมั่นการรายงานข่าวของสื่อมวลชนมากกว่าในตัวประธานาธิบดีทรัมป์

โดย 65% ของคนอเมริกันเหล่านี้เห็นว่า สื่อมวลชนเป็นส่วนสำคัญของระบบประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวโจมตีสื่อมวลชนชั้นนำของสหรัฐฯ อย่างเช่น หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ และสำนักข่าว CNN ว่ามีอคติต่อตน โดยเมื่อต้นปีที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ถึงกับทวีตข้อความกล่าวหาสื่อมวลชนว่าเป็นศัตรูของประชาชนอเมริกันด้วย

และเนื่องจากปีนี้เป็นปีของการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ รวมทั้งหมด 435 ตำแหน่ง และจะมีการเลือกวุฒิสมาชิกหนึ่งในสามหรือ 35 ตำแหน่ง จากที่มีอยู่ทั้งหมด 100 ตำแหน่ง

ผลการสำรวจของมหาวิทยาลัย Quinnipiac พบว่า คนอเมริกันจำนวนมากกว่า คือ 49% ต้องการให้พรรคเดโมแครตชนะเลือกตั้งและมีเสียงข้างมากในทั้งสภาล่างและสภาสูงของสหรัฐฯ ในขณะที่ผู้ต้องการให้พรรครีพับลิกันยังสามารถคุมเสียงข้างมากในรัฐสภาอยู่ต่อไปนั้นมีอยู่ราว 43% ถึง 44 %

ขณะนี้พรรคเดโมแครตต้องการวุฒิสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกสองที่นั่ง เพื่อคุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา และต้องการที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มขึ้นอีก 24 ที่เพื่อคุมเสียงข้างมากในสภาล่าง

เมื่อวันพุธ นายไมเคิล บลูมเบิร์ก อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ซึ่งเคยเป็นสมาชิกของพรรครีพับลิกันมาก่อน ได้ประกาศให้เงินช่วยเหลือส่วนตัว 80 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยสมาชิกของพรรคเดโมแครตหาเสียงในการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ปลายปีนี้

XS
SM
MD
LG