ในขณะที่วุฒิสภาสหรัฐฯ กำลังพิจารณากระบวนการถอดถอนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รอบสองอยู่ในขณะนี้ ดูเหมือนทรัมป์และครอบครัวก็กำลังเผชิญกับการชี้ชะตาครั้งสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อสภาเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา กำลังพิจารณาว่าจะยินยอมให้ครอบครัวทรัมป์อาศัยที่บ้านพักในสโมสรมาร์-อะ-ลาโก (Mar-a-Lago) ต่อไปหรือไม่
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สมาชิกสภาปาล์มบีชจะรับฟังความเห็นของอัยการเกี่ยวกับข้อตกลงที่ทนายความของโดนัลด์ ทรัมป์ รับปากไว้เมื่อเกือบ 30 ปีก่อนโดยไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ทรัมป์จะไม่อาศัยอยู่ที่นั่นอย่างถาวรหากว่าเขาสามารถเปลี่ยนบ้านพักตากอากาศแห่งนี้เป็นสโมสรได้
ทรัมป์ซื้อบ้านพักในมาร์-อะ-ลาโก ขนาด 126 ห้อง เมื่อปี 1985 ในราคา 10 ล้านดอลลาร์ ต่อมาในปี 1993 ทรัมป์และสภาเมืองปาล์มบีช บรรลุข้อตกลงปรับบ้านพักแห่งนี้เป็นสโมสรส่วนตัว ซึ่งจำกัดสมาชิกไว้ที่ 500 คน
ตามสัญญาที่ระบุไว้ บริษัท Trump Organization คือผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ของบ้านพักสุดหรูแห่งนี้ และทรัมป์ซึ่งมีสถานะเป็นลูกจ้างของบริษัทตนเองไม่มีสิทธิ์ที่จะอาศัยอย่างถาวร
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน Trump Organization มีแถลงการณ์ว่า ไม่มีเอกสารหรือข้อตกลงใด ๆ ที่ระบุว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถอาศัยอยู่ที่มาร์-อะ-ลาโก อย่างถาวร
ครอบครัวของอดีตผู้นำสหรัฐฯ ย้ายจากทำเนียบขาวไปยังมาร์-อะ-ลาโก เมื่อวันที่ 20 มกราคม หลังจากที่ทรัมป์พ้นจากตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้ โดนัลด์และเมลาเนีย ทรัมป์ ได้ย้ายสำมะโนครัวจากอาคาร Trump Tower ในนครนิวยอร์ก ไปยังมาร์-อะ-ลาโก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2019 แล้ว
แต่เมื่อเดือนธันวาคม สภาเมืองปาล์มบีชได้รับจดหมายจากทนายความตัวแทนผู้อยู่อาศัยในมาร์-อะ-ลาโก ที่ขอให้ทางสภาฯ ไม่ยินยอมให้ทรัมป์อาศัยอยู่ที่นั่น เนื่องจากเกรงว่าการที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ ผู้นี้อาศัยที่นั่นอย่างถาวรอาจทำให้ราคาบ้านในมาร์-อะ-ลาโก ตกลงมาได้
