สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่เข้าสู่ปีที่ 2 นี้จุดประเด็นตึงเครียดให้กับผู้คนสองชาติ แต่ภาษาได้เข้ามาเป็นสะพานเชื่อมสัมพันธ์ของชาวยูเครนและชาวรัสเซียที่พำนักนอกประเทศของพวกเขาได้
ชาวยูเครนและชาวรัสเซียที่ต้องจากบ้านเกิดหลังจากที่เกิดสงครามปะทุขึ้น ได้ค้นพบมิตรภาพร่วมชั้นเรียนในหลักสูตรภาษาตุรกี
มารินา ชิชกา เป็นหนึ่งในชาวยูเครนจากจำนวนหลายแสนคน ที่ต้องเดินทางออกจากยูเครนหลังจากที่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครนเมื่อปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบันนี้เธออาศัยอยู่ในประเทศตุรกีมาเป็นเวลา 11 เดือนแล้ว และกำลังร่ำเรียนภาษาตุรกี
เธอเล่าว่า “หลังจากที่ฉันเริ่มเรียนภาษา การใช้ชีวิตที่นี่ก็ง่ายขึ้นอย่างมาก ตอนนี้ฉันสามารถไปห้างสรรพสินค้าหรือโรงพยาบาลได้ด้วยตนเอง และนี่เป็นวิธีที่ทำให้ได้ผูกมิตรกับเพื่อนชาวตุรกีที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง”
นับตั้งแต่เริ่มสงคราม ไม่เพียงแต่ชาวยูเครนเท่านั้น แต่ชาวรัสเซียจำนวนหลายแสนคนได้เดินทางออกจากประเทศของพวกเขา ซึ่งรวมถึง มาร์ฟา อเล็กซีเอวา หนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของชิชกา ในหลักสูตรภาษาตุรกี
อเล็กซีเอวา ชาวรัสเซียที่อาศัยในตุรกีเผยว่า “ฉันมาถึงตุรกีจากรัสเซียเมื่อปลายเดือนตุลาคม เพราะอยากอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัยและสงบหลังจากภาวะสงคราม ฉันสามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้เป็นเวลานาน เลยทำให้อยากเรียนภาษาตุรกี ซึ่งตอนนี้ฉันสามารถสื่อสารเวลาไปธนาคาร ตลาด หรืออยู่บนรถโดยสารได้แล้ว”
สำหรับชั้นเรียนภาษาตุรกีของชาวรัสเซียและชาวยูเครน ถูกจัดขึ้นโดยสมาคม Eurasian Leader Women's Culture and Social Assistance Association ที่ตั้งอยู่ในเมืองอิซเมียร์ ประเทศตุรกี
ในช่วงเริ่มต้น ชั้นเรียนถูกจัดขึ้นสำหรับเด็กและเยาวชน แต่ด้วยความสนใจของที่เพิ่มมากขึ้น จึงมีการจัดชั้นเรียนเพิ่มเติมสำหรับผู้ใหญ่
ชั้นเรียนภาษาตุรกีสำหรับผู้ใหญ่ จะเปิดการเรียนการสอน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ มีนักเรียนลงทะเบียน 24 คน และพบว่ามีคนลงชื่อเพื่อรอลงทะเบียนเรียนอีกเป็นจำนวนมาก
เมื่อจบชั้นเรียนดังกล่าวแล้ว ผู้เรียนจะได้รับใบรับรองการจบหลักสูตร ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำใบขับขี่ รวมถึงการสมัครงานต่าง ๆ ในประเทศตุรกี
ซาโลเม เดอร์เม ตัวแทนจากสมาคม Eurasian Leader Women's Culture and Social Assistance Association ที่จัดชั้นเรียนภาษาตุรกี ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า “ฉันมาที่นี่ ในช่วงที่เกิดสงครามระหว่างรัสเซียและจอร์เจียในปี 2008 ฉันเข้าใจเป็นอย่างดี ถึงความเจ็บปวดของพวกเขา” และเธอเสริมว่าการพูดที่ก่อให้เกิดความเกลียดชัง ไม่ใช่สิ่งที่ดี
จุดมุ่งหมายของชั้นเรียนนี้ มีขึ้นเพื่อที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างชาวรัสเซียและชาวยูเครนในตุรกี ให้มีความสามัคคีกัน
มารินา ชิชกา ชาวยูเครน บอกว่าเธอเป็นคนที่รักชาติบ้านเกิด เธอพยายามจะเป็นมิตรกับทุกคนที่ยอมรับในแบบที่เธอเป็น อีกทั้งย้ำว่าจะต้องแยกเรื่องการเมืองออกไป และมองทุกคนว่าเป็นมนุษย์ไม่ต่างจากกัน
- ที่มา: วีโอเอ