เมื่อวันศุกร์ นายโนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น เดินทางเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิ ซึ่งเป็นสถานที่ๆ จีน เกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ มองว่าเป็นสัญลักษณ์ความรุนแรงของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตามรายงานของสำนักข่าว The Associated Press
นายคิชิเดินทางไปสวดมนต์ที่ศาลดังกล่าวเพียงไม่กี่วันก่อนที่จะถึงวันครบรอบ 76 ปีที่ญี่ปุ่นแพ้สงคราม ทั้งนี้ เหยื่อของกองทัพญี่ปุ่น โดยเฉพาะในจีน เกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ มองว่าศาลนี้เป็นสัญลักษณ์ของลัทธิทหารนิยมของญี่ปุ่น เนื่องจากศาลดังกล่าวรำลึกถึงอาชญากรสงครามที่ถูกตัดสินว่ามีความผิด ซึ่งเป็นจำนวนหนึ่งของทหารที่เสียชีวิตในช่วงสงครามราว 2.5 ล้านคน
นายคิชิกล่าวว่า การแสดงความเคารพต่อดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตจากสงครามเป็นเรื่องที่ปฏิบัติในทุกประเทศ เขาแสดงความไว้อาลัยต่อผู้ที่ต่อสู้เพื่อประเทศและเสียชีวิตในสงครามครั้งล่าสุดของญี่ปุ่นนี้ และยืนยันว่าจะปกป้องชีวิตและสันติภาพของประชาชนต่อไป
ทั้งนี้ นายคิชิเป็นน้องชายของนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยเขามักปฏิเสธความรุนแรงของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นายคิชิยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนแรกที่เดินทางเยือนศาลเจ้าดังกล่าวขณะดำรงตำแหน่งในรอบห้าปี หลังจากที่นางโทโมิ อินาดะ ไปเยือนศาลแห่งนี้ขณะเธอดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2016
นายอาเบะไม่เดินทางไปเยือนศาลเจ้ายาสุกินิเป็นเวลาเจ็ดปี หลังจากที่การเดินทางเยือนของเขาเมื่อปีค.ศ. 2013 จุดชนวนความไม่พอใจจากจีน เกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ลาออกจากตำแหน่งเมื่อปีที่แล้ว เขาก็เดินทางเยือนศาลเจ้าแห่งนี้เป็นระยะ
ทางด้านนายโยชิฮิเดะ ซูกะ ผู้นำญี่ปุ่นคนปัจจุบัน ได้บริจาคเครื่องตกแต่งในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิสำหรับศาลเจ้ายาสุกุนิเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เขาหลีกเลี่ยงไม่เดินทางเยือนศาลเจ้าแห่งนี้
นายยาสุโตะชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของญี่ปุ่น ผู้รับผิดชอบมาตรการรับมือกับโรคโควิด-19 ของประเทศ ก็เดินทางเยือนศาลเจ้าดังกล่าวด้วยตนเองเมื่อวันศุกร์เช่นกัน
นายคิชิและนายนิชิมุระระบุว่า พวกเขาเดินทางเยือนศาลเจ้าในเวลาดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนและสวดมนต์อย่างเงียบสงบในช่วงก่อนวันครบรอบที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามในวันอาทิตย์นี้
เกาหลีใต้และจีนวิจารณ์การเดินทางเยือนศาลเจ้ายาสุกินิของผู้นำญี่ปุ่น โดยเตือนให้พวกเขายอมรับความรุนแรงของญี่ปุ่นในช่วงสงคราม ทั้งนี้ ชาวเกาหลีใต้จำนวนมากรู้สึกต่อต้านญี่ปุ่น จากการที่ญี่ปุ่นเข้าล่าอาณานิคมในคาบสมุทรเกาหลีเมื่อช่วงปีค.ศ. 1910 – 1945
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นดิ่งลงถึงจุดต่ำสุุด ต่อกรณีการชดเชยต่อชาวเกาหลีใต้ที่ถูกกองทัพญี่ปุ่นบังคับใช้แรงงานและบังคับเป็นหญิงบำเรอในช่วงสงคราม
กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ระบุว่า ทางกระทรวงเรียกตัวอัครราชทูตของสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงโซลให้เข้าพบ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยที่นายคิชิเดินทางเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิ ในขณะที่กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์ว่า การกระทำของนายคิชิเป็นเรื่องที่ “น่าเสียใจ” และทางกระทรวงมีความกังวลและเสียใจต่อกรณีนี้เป็นอย่างยิ่ง
รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิ
