นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ สร้างความประหลาดใจเมื่อสามารถเอาชนะเลือกตั้งทั่วไปของญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาด้วยคะแนนนำห่างเหนือคู่แข่ง และเขาได้ประกาศนโยบายใหม่ในวันจันทร์ซึ่งมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพทางทหารเพื่อต่อต้านอิทธิพลของจีน ตลอดจนการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนและฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นจากการะบาดของโควิด-19
พรรคเสรีประชาธิปไตย (Liberal Democratic Party - LDP) ซึ่งเป็นพรรคแนวทางอนุรักษ์นิยมที่นายคิชิดะเป็นหัวหน้าพรรค ได้รับชัยชนะแบบทิ้งห่างเหนือความคาดหมาย โดยกวาดไป 261 ที่นั่ง ทำให้สามารถรักษาสถานะความเป็นรัฐบาลพรรคเดียวไว้ได้ต่อไป
ชัยชนะครั้งนี้ส่งผลให้นายคิชิดะผู้ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมแทนอดีตนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูกะ ที่ประกาศลาออก ได้กลับเข้านั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้เขาสามารถผลักดันกฎหมายต่าง ๆ ได้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในช่วงกลางปีหน้า
ชัยชนะของพรรค LDP ยังบรรเทาความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับมาตรการอัดฉีดเงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจญี่ปุ่นจากการะบาดของโคโรนาไวรัสที่นายกฯ คิชิดะ เป็นผู้ผลักดันด้วย
วางกรอบนโยบายภายใต้รัฐบาลใหม่
นายกฯ คนปัจจุบันของญี่ปุ่น รับปากไว้ว่าจะเพิ่มงบประมาณและเริ่มโครงการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นทันที
ในส่วนของนโยบายทางการทหาร นายคิชิดะ กล่าวว่า จะใช้แนวทางที่แข็งกร้าวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรค LDP บางส่วนที่หนุนหลังเขาให้เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งอาจรวมถึงการเพิ่มงบประมาณด้านการทหารเป็นสองเท่าเป็น 2% ของจีดีพีของญี่ปุ่น รวมถึงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์สำหรับป้องกันการรุกรานจากจีนในฝั่งทะเลจีนตะวันออก
นายคิชิดะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจำเป็นต้องพิจารณาเพิ่มศักยภาพในการโจมตีฐานทัพของศัตรูไว้เป็นทางเลือกในการต่อต้านการพัฒนาเทคโนโลยีทางทหารของประเทศอื่น เพื่อปกป้องประชาชนญี่ปุ่นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสถานการณ์โลกและความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีทางการทหาร
นายคิชิดะยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการลงทุนด้านพลังงานสะอาดและความช่วยเหลือให้แก่ประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย ซึ่งจะอยู่ในแผนกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ของญี่ปุ่น รวมทั้งประกาศตั้งเป้าว่าญี่ปุ่นจะสามารถกลายเป็นผู้นำด้านการลดก๊าซคาร์บอนและมลพิษทางอากาศต่าง ๆ ในเอเชีย
หลังจากประกาศนโยบายต่าง ๆ แล้ว นายกรัฐมนตรีคิชิดะจะเดินทางไปร่วมประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยสภาพภูมิอากาศโลก หรือ COP26 ที่เมืองกลาสโกว์ สก็อตแลนด์ ในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวบนเวทีระดับโลกเป็นครั้งแรกด้วย