รัฐบาลอินเดียประกาศความสำเร็จในการแจกจ่ายวัคซีนโควิด-19 แล้วถึง 2,000 ล้านเข็ม ขณะที่ กำลังมีการเตรียมวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิ (บูสเตอร์) ให้กับประชากรที่เป็นผู้ใหญ่อยู่ ในช่วงที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ในวันอาทิตย์ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ยกย่องรัฐบาลกรุงนิวเดลีต่อความสำเร็จของโครงการฉีดวัคซีนที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดและให้กับประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว พร้อมทวีตข้อความที่ระบุว่า”อินเดียสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง!”
ก่อนหน้านี้ ผู้นำรัฐบาลอินเดียถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่า ดำเนินแผนงานรับมือการระบาดใหญ่นี้ผิดพลาดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน แต่รัฐบาลก็ปฏิเสธคำกล่าวหานี้มาโดยตลอด
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอินเดียแสดงให้เห็นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 นั้นอยู่ที่ 525,709 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตในช่วงข้ามคืนก่อนหน้าเพิ่มอีก 49 ราย
ขณะเดียวกัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 20,528 คนในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ตามข้อมูลที่รอยเตอร์รวบรวมมาได้
ทั้งนี้ ประเทศที่มีจำนวนประชาราว 1,350 ล้านคนนี้ประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสต่าง ๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้การเดินทางระหว่างประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง
รายงานข่าวระบุว่า ราว 80% ของวัคซีนที่มีการแจกจ่ายในอินเดียนั้นเป็นของ แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ซึ่งผลิตในอินเดีย และมีชื่อว่า โควิดชีลด์ (Covidshield) ขณะที่ วัคซีนอื่น ๆ นั้นมีทั้งที่พัฒนาเองในอินเดีย เช่น โคแว็กซิน (Covaxin) และ คอร์เบแว๊กซ์ (Corbevax) และวัคซีนสปุตนิก วี (Sputnik V) ของรัสเซีย
รัฐบาลกลางอินเดียพยายามเชิญชวนให้ประชาชนออกมารับวัคซีนบูสเตอร์อย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังป้องกันการระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่รัฐอัสสัม ทางตะวันออก รัฐเบงกอลตะวันตก และรัฐกรณาฏกะ ทางใต้ ซึ่งเริ่มรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นแล้ว
- ที่มา: รอยเตอร์