นายแพทย์แอนโธนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวเตือนในวันอาทิตย์เกี่ยวกับการระบาดรอบใหม่ของเชื้อโคโรนาไวรัสในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในรัฐที่ประชากรจำนวนมากต่อต้านการฉีดวัคซีน
นายแพทย์เฟาชี กล่าวผ่านรายการ “State of the Union” ของสถานีข่าวซีเอ็นเอ็น ระบุว่าขณะนี้ชาวอเมริกันราว 50% ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักที่กำลังสร้างอันตรายให้กับประชากรอเมริกันทุกคน
ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาในพื้นที่ที่ประชาชนต่อต้านหรือยังลังเลที่จะฉีดวัคซีน โดยในวันเสาร์มีผู้ติดเชื้อในอเมริกามากกว่า 51,000 คน เพิ่มขึ้น 172% จากสองสัปดาห์ก่อน และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละกว่า 250 คน
รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า จนถึงขณะนี้มีคนอเมริกันได้รับวัคซีนครบแล้วมากกว่า 162 ล้านคน คิดเป็น 49% ของประชากรทั้งประเทศ และเกือบ 60% ของประชากรวัยผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจชี้ว่า ราว 80% ของผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนยืนยันว่าจะไม่ฉีด ไม่ว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือนักการเมืองอเมริกันจะออกมากระตุ้นมากแค่ไหนก็ตาม
นายแพทย์เฟาชี กล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 มีอัตราการป้องกันอาการป่วยจากเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ในระดับสูง รวมทั้งสายพันธุ์เดลตา แต่อัตราการฉีดวัคซีนในอเมริกาได้ลดลงมากกว่า 80% นับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน
เวลานี้ หลายเมืองในสหรัฐฯ รวมทั้ง นครลอสแอนเจลีส และนครเซนต์หลุยส์ ได้ประกาศคำสั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากขณะอยู่ในอาคารสาธารณะอีกครั้งไม่ว่าจะได้รับวัคซีนแล้วหรือไม่ก็ตาม ขณะที่คาดว่าอีกหลายเมืองจะประกาศมาตรการเดียวกันเร็ว ๆ นี้