ลิ้งค์เชื่อมต่อ

โควิด-19 คร่าชีวิตทะลุ 100,000 รายทั่วโลก


People construct burial vaults in the Angela Maria Canalis cemetery as the coronavirus disease (COVID-19) overwhelms sanitary authorities, in Guayaquil, Ecuador April 8, 2020. REUTERS/Vicente Gaibor del Pino NO RESALES. NO ARCHIVES
People construct burial vaults in the Angela Maria Canalis cemetery as the coronavirus disease (COVID-19) overwhelms sanitary authorities, in Guayaquil, Ecuador April 8, 2020. REUTERS/Vicente Gaibor del Pino NO RESALES. NO ARCHIVES

อนามัยโลก หวั่นโควิดระบาดซ้ำหากรีบผ่อนคลายล็อคดาวน์เร็วไป ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ทั่วโลกทะลุ 100,000 รายแล้วในวันศุกร์ พุ่งขึ้นเป็นเท่าตัวภายในไม่ถึงสัปดาห์ ตามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอห์นฮอบกินส์

ก่อนหน้านี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วโลกเมื่อ 2 เมษายนอยู่ที่ 50,000 ราย และติดเชื้อ 1 ล้านราย และอีก 8 วันต่อมา ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งทะลุ 1 แสนราย และมีผู้ติดเชื้อกว่า 1.6 ล้านรายแล้ว

ด้านผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เทดรอส อัดนอม เกเบรเยซุส กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าพบตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ที่ลดลงในบางประเทศของยุโรป อย่างสเปน อิตาลี เยอรมนี และฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามหากรีบผ่อนคลายมาตรการลดการแพร่ระบาดเร็วเกินไป อาจเสี่ยงต่อการระบาดซ้ำสองได้

ท่าทีของอนามัยโลก มีขึ้นหลังจากทางการสเปน ประเทศที่พบการระบาดหนักอันดับ 2 ของรองจากสหรัฐฯ เพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศ ด้วยการให้พนักงานในสายงานที่ไม่มีความจำเป็นกลับมาทำงานได้บางส่วน อย่างภาคก่อสร้าง และโรงงาน กลับมาทำงานได้ในวันจันทร์หน้า หลังจากสเปนยืนยันว่ามียอดผู้เสียชีวิตต่ำที่สุดในรอบ กว่า 2 สัปดาห์เมื่อวันศุกร์ คือ 605 รายใน 1 วัน

ตอนนี้โควิด-19 แพร่ระบาดไปกว่า 180 ประเทศทั่วโลกและเขตการปกครองต่างๆ ที่น่าสนใจคือประเทศที่เป็นศูนย์กลางการระบาดในช่วงแรกๆ อย่างจีนและเกาหลีใต้ กลับมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่หลายประเทศในยุโรป ทั้งอิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ยังประสบปัญหาในการลดอัตราการติดเชื้อในประเทศลง

แต่ในฝั่งสหรัฐฯ ที่รัฐนิวยอร์ก ศูนย์กลางการระบาดใหญ่ในสหรัฐฯตอนนี้ มีรายงานตัวเลขผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโควิด-19 ลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ทำเนียบขาวยืนยันเมื่อวันพุธว่า มีหลักฐานบ่งชี้ว่ามาตรการล็อคดาวน์ของสหรัฐฯนั้นเริ่มเห็นผลแล้ว

ด้านอังกฤษโฆษกประจำนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน อาการดีขึ้นตามลำดับ โดยสามารถเดินไปมาได้ในระยะสั้นๆ ระหว่างการพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในกรุงลอนดอน แต่ในภาพกว้างทางรัฐบาลอังกฤษยังคงมาตรการล็อคดาวน์ต่อไปเรื่อยๆ หลังไม่พบสัญญาณว่าการแพร่ระบาดในประเทศผ่านพ้นจุดสูงสุดไปแล้วหรือไม่

ส่วนไอร์แลนด์และอิตาลี ทางการประกาศขยายเวลาล็อคดาวน์ออกไปจนถึง 5 พฤษภาคมนี้ เช่นเดียวกับแอฟริกาใต้ที่ขยายเวลาล็อคดาวน์ไปอีก 14 วัน สร้างความไม่พอใจกับพรรคฝ่ายค้านที่มองว่าจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจประเทศย่ำแย่ลงไปอีก

XS
SM
MD
LG