ทีมกู้ภัยที่ทำหน้าที่ค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิตจากเหตุการณ์อาคารถล่มในเมืองเซิร์ฟไซด์ รัฐฟลอริดา ประกาศในวันพุธว่า โอกาสรอดชีวิตของผู้ที่อยู่ภายใต้ซากอาคารนี้ “ไม่มีเหลือแล้ว” และทีมงานจะปรับเปลี่ยนการทำงานไปเป็นการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตแทน
สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ดาเนียลลา เลอวีน คาวา นายกเทศมนตรีหญิงเขตปกครองไมอามี-เดด เคาน์ตี้ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวว่า ทีมกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 8 รายในช่วงบ่ายวันพุธ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมนี้เพิ่มขึ้นเป็น 54 รายแล้ว โดยผู้ที่เกี่ยวข้องได้พยายามทุกวิถีทางที่มีในการดำเนินภารกิจค้นหาและกู้ภัยจนหมดสิ้นแล้ว
จนถึงเวลานี้ เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวผู้เสียชีวิตได้ 33 ราย ขณะที่มีสูญหายอีก 86 ราย
เรด จาดัลลาห์ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงานดับเพลิง ไมอามี-เดด เคาน์ตี้ แจ้งต่อสมาชิกครอบครัวผู้ที่อยู่อาศัยในอาคารที่ถล่มลงมาว่า ทีมงานจะหยุดการใช้สุนัขกู้ภัยและอุปกรณ์ช่วยฟังเสียงในการทำงาน แต่จะเดินหน้าค้นหาร่างผู้เสียชีวิตต่อไป โดยระบุว่า หน้าที่ความรับผิดชอบเดียวของทีมงาน ณ จุดนี้ คือการช่วยไม่ให้สมาชิกในครอบครัวทั้งหลายไม่มีเหตุค้างคาใจให้ได้
ตั้งแต่เริ่มภารกิจค้นหามาตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน หลังเกิดเหตุอาคารแชมแพลน ทาวเวอร์ เซาธ์ ถล่มลงมาเพียงไม่กี่ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถพบผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังได้
และเมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ได้ระเบิดทำลายส่วนที่เหลืออยู่ของอาคารดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดถล่มลงมาเพิ่มและเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติภารกิจกู้ภัยอยู่ในบริเวณนั้น
(ที่มา: รอยเตอร์ และเอพี)
