ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ข่าวเสียชีวิตของหมอจีนผู้พบ 'ไวรัสอู่ฮั่น' สร้างกระแสความโกรธเคืองในฮ่องกง


People wearing masks attend a vigil for late Li Wenliang, an ophthalmologist who died of coronavirus at a hospital in Wuhan, in Hong Kong, Feb. 7, 2020.
People wearing masks attend a vigil for late Li Wenliang, an ophthalmologist who died of coronavirus at a hospital in Wuhan, in Hong Kong, Feb. 7, 2020.

การเสียชีวิตของแพทย์ชาวจีนผู้เป็นคนเปิดเผยเรื่องเชื้อโคโรนาไวรัสเป็นคนแรกและถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม ได้ก่อให้เกิดกระแสความหวาดกลัวและโกรธแค้นในหมู่ชาวฮ่องกงจำนวนมาก ซึ่งกล่าวหาว่ารัฐบาลจีนพยายามปกปิดการระบาดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 630 คน

นายแพทย์หลี่ เหวินเหลียง อายุ 34 ปี เป็นจักษุแพทย์ที่โรงพยาบาลกลางอู่ฮั่น เขาเสียชีวิตในช่วงคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นหลังจากติดเชื้อโคโรนาไวรัส ตามคำแถลงของโรงพยาบาลดังกล่าวทางสื่อสังคมออนไลน์

เมื่อเดือนธันวาคม นายแพทย์หลี่ส่งข้อความในกลุ่ม WeChat ให้กับเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนแพทย์ ระบุว่า คนงาน 7 คนที่ตลาดอาหารทะเลแห่งหนึ่งในอู่ฮั่นมีอาการป่วยคล้ายกับอาการของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลัน หรือ ซาร์ส ที่ระบาดในจีนและฮ่องกงเมื่อปี ค.ศ. 2003 ซึ่งต่อมาพบว่าคือเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

นายแพทย์หลี่ถูกตำรวจจีนควบคุมตัวเมื่อวันที่ 3 มกราคม จากข้อกล่าวหาว่า "ปล่อยข่าวลือผิด ๆ" และถูกบังคับให้เซ็นต์ชื่อยอมรับว่าตนทำผิดกฎหมายและทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคม ต่อมาเขาติดเชื้อโคโรนาไวรัสขณะทำการรักษาผู้ป่วย ก่อนจะเสียชีวิตในวันศุกร์ในโรงพยาบาลกลางอู่ฮั่น

นอกจากนายแพทย์ผู้นี้แล้วยังมีอีก 7 คนที่ถูกจับในข้อหาเดียวกัน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของบุคคลเหล่านั้น

ในวันศุกร์ ชาวฮ่องกงต่างไว้อาลัยให้นายแพทย์หลี่ ซึ่งบางคนบอกว่า “เขากล้าออกมาพูดความจริง แต่น่าเสียดายที่ว่าความจริงข้อนั้นไม่มีการเปิดเผยในวงกว้างได้เร็วพอ เหตุการณ์จึงเป็นแบบนี้”

นพ. หลี่ กลายเป็นตัวแทนของความโกรธแค้นของชาวจีน ที่มองว่ารัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ปิดบังข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการระบาดของโคโรนาไวรัส และชาวจีนจำนวนมากยังได้ออกมาแสดงความเศร้าโศกเสียใจอย่างท้วมท้นต่อการเสียชีวิตของ นพ.หลี่ ด้วย

เจ้าหน้าที่มณฑลหูเป่ยรายงานว่า เวลานี้จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 630 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นกว่า 31,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในจีน โดยมีผู้ติดเชื้อราว 150 คนในประเทศอื่นอย่างน้อย 23 ประเทศ





XS
SM
MD
LG