ชาวอเมริกันออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกลางเทอม (midterm election) ในวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน ที่เป็นการชิงชัยอย่างเข้มข้นสูสีมากที่สุดครั้งหนึ่ง และจะเป็นการชี้ว่าพรรครีพับลิกันจะสามารถพลิกมากุมเสียงข้างมากในรัฐสภาสหรัฐฯ ได้หรือไม่
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 435 ตำแหน่งและสมาชิกวุฒิสภา 35 ตำแหน่ง รอยเตอร์รายงานว่า พรรครีพับลิกันมีโอกาสที่จะได้ที่นั่ง ส.ส. เพิ่ม 5 เก้าอี้ แต่ศึกชิงชัยในวุฒิสภา ซึ่งปัจจุบันทั้งสองพรรคมีเสียง 50-50 นั้น อาจจะขึ้นอยู่กับว่า พรรคใดจะคว้าชัยชนะจากรัฐที่เป็นรัฐสมรภูมิดังต่อไปนี้
รัฐเพนซิลเวเนีย - พรรคใดจะกุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาของสหรัฐฯ อาจจะขึ้นอยู่กับว่าชาวอเมริกันในรัฐเพนซิลเวเนียจะเลือก ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต รองผู้ว่าการรัฐ จอห์น เฟตเตอร์แมน (John Fetterman) หรือ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ดร.เมห์เม็ต ออซ (Mehmet Oz) ศัลยแพทย์หัวใจที่โด่งดังจากการผันตัวมาเป็นเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในรายการโทรทัศน์ เฟตเตอร์แมนใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วงการหาเสียง รักษาตัวจากโรคหลอดเลือดสมอง หรืออาการเส้นเลือดในสมองตีบ ในขณะที่ ดร.ออซ ใช้ช่วงเวลาเดียวกันโจมตีปัญหาสุขภาพของเฟตเตอร์แมน และกล่าวว่าสุขภาพของเขาไม่ดีพอที่จะทำงานเป็น ส.ว. ก่อนหน้านี้ ดร.ออซ นั้นเกือบจะไม่ได้รับชัยชนะได้เป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันในศึกเลือกตั้งขั้นต้น (primary election) เพราะคู่แข่งจากพรรคเดียวกันกล่าวหาว่าเขาเป็นพวกหัวก้าวหน้าที่ใช้ชีวิตอยู่แค่ในวงการบันเทิง
รัฐแอริโซนา - ส.ว.รัฐแอริโซนาคนปัจจุบัน มาร์ค เคลลี (Mark Kelly) จากพรรคเดโมแครตต้องพยายามรักษาตำแหน่งเอาไว้ให้ได้ จากการท้าชิงของนักลงทุนซื้อกิจการ เบลค มาสเตอร์ส (Blake Masters) ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในรัฐแอริโซนา เคลลีได้พยายามตีตัวออกห่างจากประธานาธิบดี โจ ไบเดน และจากการเป็นสมาชิกของพรรคเดโมแครต ส่วนมาสเตอร์สได้พยายามที่จะโจมตีเคลลีที่สร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นตัวเลือกอิสระไม่สังกัดพรรคใด โดยกล่าวว่าแท้จริงแล้วเคลลีคือตรายางของ ปธน.ไบเดน ผู้ล้มเหลวในการสร้างความปลอดภัยให้กับชายแดนระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก และยังทำให้ภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูง การเลือกตั้ง ส.ว.รัฐแอริโซนาเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่พรรครีพับลิกันตั้งความหวังไว้สูง เพื่อจะพลิกมากุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งปัจจุบันพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันกุมเสียง 50-50
รัฐจอร์เจีย - ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย จะเป็นผู้ตัดสินศึกเลือกตั้งวุฒิสมาชิกที่ได้รับความสนใจมากที่สุดรัฐหนึ่ง โดยจะเป็นการลงคะแนนเสียงว่าจะให้ ส.ว.รัฐคนปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต ราฟาเอล วอร์นอค (Raphael Warnock) ดำรงตำแหน่งต่อให้ครบวาระ หรือจะเลือก ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน เฮอร์เชิล วอล์คเกอร์ (Herschel Walker) อดีตนักกีฬาอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง ให้เข้ามาเป็น ส.ว.ของรัฐคนใหม่ โดยวอร์นอคมุ่งโจมตีวอล์คเกอร์ว่าไม่เหมาะที่จะเข้ามาทำงานในวุฒิสภาสหรัฐฯ ส่วนวอล์คเกอร์ย้ำว่าวอร์นอคนั้นเป็นตรายางประทับของประธานาธิบดี โจ ไบเดน และของพรรคเดโมแครต ไม่ใช่คนที่ทำงานได้กับตัวแทนทั้งสองพรรคอย่างที่วอร์นอคหาเสียงเอาไว้
รัฐนิวแฮมเชอร์ - แมกกี แฮสซัน (Maggie Hassan) ส.ว.จากพรรคเดโมแครตคนปัจจุบันของรัฐนิวแฮมเชอร์ ลงชิงชัยกับ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน ดอน โบลดัค (Don Bolduc) ในสนามเลือกตั้งที่มีผู้จับตามากที่สุดสนามหนึ่ง หากโบลดัคสามารถแย่งเก้าอี้ ส.ว.รัฐนิวแฮมเชอร์มาได้ จะมีส่วนอย่างมากในการช่วยพรรครีพับลิกันพลิกขึ้นมากุมเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐฯ โบลดัค เป็นนายพลจัตวากองทัพสหรัฐฯ ที่เกษียณแล้ว และมักสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับวัคซีน ในขณะที่ตำแหน่งของ ส.ว. แฮสซัน ถูกมองว่าอยู่ในภาวะสั่นคลอนตั้งแต่เธอคว้าชัยชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2016 มาได้อย่างฉิวเฉียด อย่างไรก็ตาม มีการมองว่าโอกาสที่เธอจะชนะนั้นดีกว่าก่อนมาก หลังจากที่ ผู้ว่าการรัฐ คริส โซนูนู (Chris Sonunu) จากพรรครีพับลิกันที่เป็นผู้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ตัดสินใจไม่ลงสมัครชิงเก้าอี้ ส.ว.ในครั้งนี้ ทำให้พรรครีพับลิกันเสนอให้โบลดัคลงชิงชัยแทน
รัฐวิสคอนซิน - รอน จอห์นสัน (Ron Johnson) จากพรรครีพับลิกัน ลงเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิวิสคอนซินเพื่อที่จะดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกของรัฐเป็นสมัยที่สาม โดยมี แมนเดลา บาร์นส์ (Mandela Barnes) จากพรรคเดโมแครตเป็นผู้ท้าชิง และหวังว่าจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็น ส.ว.รัฐผิวดำคนแรก จอห์นสันเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนตัวยงของอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และโจมตีว่า บาร์นส์ เป็นคน “อันตราย” และไม่จริงจังในการปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่พรรครีพับลิกันใช้โจมตีคู่แข่งพรรคเดโมแครตในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วน บาร์นส์ ซึ่งเป็นรองผู้ว่ารัฐวิสคอนซินผิวดำคนแรก พยายามหาเสียงโดยมุ่งไปที่ประเด็นสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง และยังโจมตี จอห์นสันที่สนับสนุนให้ศาลสูงสหรัฐฯ คว่ำคำตัดสิน Roe v. Wade มาตลอด
ข้อมูล: เอพี