ตั้งแต่เดือนมิถุนายน เมื่อศาลสูงสหรัฐฯ ตัดสินคว่ำการพิจารณาคดี Roe v. Wade 49 ปีก่อน ซึ่งเคยให้สิทธิ์คุ้มครองตามรัฐธรรมนูญต่อสตรีในการทำแท้ง นักการเมืองระดับประเทศหลายคนต่างยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการหาเสียง ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนวันเลือกตั้งกลางเทอม 8 พฤศจิกายน
ในเวลาเดียวกัน นักการเมืองระดับรัฐ ที่เเข่งขันเป็นผู้ว่าการรัฐและตัวเเทนสภาท้องถิ่น กำลังกลายเป็นผู้กำหนดทิศทางเรื่องสิทธิ์การทำแท้งของสตรีในเขตของตน และประชาชนในรัฐเหล่านี้จะใช้สิทธิ์เลือกตัวเเทนระดับรัฐในวันเลือกตั้งกลางเทอมเช่นกัน
นักรณรงค์เรื่องสิทธิ์การทำแท้งเละนักการเมืองจากพรรคเดโมเเครตเตือนว่า หากพรรครีพับกันสามารถคุมการปกครองท้องถิ่นทั้งของสภา รัฐบาลและศาลภายในรัฐ เสรีภาพในการยุติการตั้งครรภ์จะถูกลดทอนลง ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี
ขณะเดียวกัน ในการรณรงค์หาเสียงของนักการเมืองรีพับลิกัน พวกเขามักพูดถึงประเด็นอื่นที่ไม่ใช่การทำแท้ง เช่น เรื่องเงินเฟ้อ และอาชญากรรม
ลินดา โกเลอร์ บล็อนท์ ประธานของกลุ่มสตรี Black Women’s Health Imperative กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นจะเป็นตัวกำหนดอนาคตของสิทธิ์การทำแท้งในรัฐหลายเเห่งเช่น เเคนซัส เพนซิลเวเนีย จอร์เจียและวิสคอนซิน ไม่ว่าจะมีคำถามในบัตรเลือกตั้งเรื่องสิทธิ์ดังกล่าวระบุไว้อย่างเฉพาะเจาะจงเรื่องไม่
เเครอล โทเบียส ประธานกลุ่มสนับสนุนการทำแท้ง National Right to Life Committeeให้สัมภาษณ์กับเอพี ว่า หากรีพับลิกันได้รับการเลือกตั้ง มาตรการระดับท้องถิ่นอาจผ่านสภาของรัฐต่าง ๆ
ในรัฐนอร์ทเเคโรไลนาซึ่งมีผู้ว่าการรัฐเป็นตัวเเทนเดโมเเครต แต่สภาผู้เเทนและวุฒิสภาของรัฐนี้มีรีพับลิกันเป็นเสียงข้างมาก ผู้ว่าการ รอย คูเปอร์ ได้ใช้สิทธิ์ยับยั้ง หรือ “วีโต้” มาเเล้วสองครั้งต่อการผลักดันกฎหมายจากสภาเรื่องการห้ามทำแท้งหลังตั้งครรภ์ 20 สัปดาห์ ยกเว้นกรณีพิเศษ
แต่หากว่าตัวเเทนรีพับลิกันได้ที่นั่งเพิ่มในสภาผู้เเทนและวุฒิสภาของรัฐนอร์ทเเคโรไลนา 3 และ 2 ที่นั่งตามลำดับ ฝ่ายรีพับลิกันจะสามารถต้านการวีโต้ของผู้ว่าการรัฐได้
- ที่มา: เอพี
