นักเตะเกาหลีใต้เผย "เกมฟุตบอลกับเกาหลีเหนือไม่ต่างจากสงคราม!"

South Korean national soccer team player Son Heung-min answers a reporter's question upon his arrival after the soccer match against North Korea, at Incheon International Airport in Incheon, South Korea, Thursday, Oct. 17, 2019. North Korea held…

ทีมฟุตบอลเกาหลีใต้กล่าวถึงการแข่งขันกับทีมชาติเกาหลีเหนือ ในนัดคัดเลือกฟุตบอลโลก โซนเอเชีย ที่กรุงเปียงยาง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เป็นการแข่งขันที่รุนแรงภายใต้สภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด และอาจรายงานเรื่องนี้ต่อสมาพันธ์ฟุตบอลโลก หรือ ฟีฟ่า

แมทช์ประวัติศาสตร์นี้นับเป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกของทั้งสองเกาหลีที่จัดแข่งในเกาหลีเหนือ โดยก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศเคยแข่งนัดกระชับมิตรที่กรุงเปียงยางมาแล้วเมื่อปี ค.ศ. 1990

ผลการแข่งขันจบลงโดยเสมอกันแบบไม่มีประตู 0-0 โดยแข่งกันที่สนามคิม อิล ซุง ความจุ 50,000 ที่นั่ง แต่กลับไม่มีคนดูและไม่มีการถ่ายทอดสด

ซน เฮือง-มิน นักฟุตบอลเกาหลีใต้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรกหลังจากเดินทางกลับถึงกรุงโซลในวันพฤหัสบดีว่า "เกาหลีเหนือเล่นรุนแรง และมีการใช้วาจาที่ก้าวร้าวด่าทอกันไปมา" และว่า "ยากที่จะพุ่งสมาธิไปกับการแข่งขัน เพราะต้องคิดอยู่เสมอว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ให้บาดเจ็บอย่างไร... ถือเป็นความสำเร็จที่เรากลับออกมาจากที่นั่นโดยที่ไม่บุบสลาย"

ศูนย์หน้าเกาหลีใต้ผู้เล่นอยู่กับสโมสรท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในอังกฤษ กล่าวด้วยว่า "ทั้งผู้เล่นและเจ้าหน้าที่ทีมเกาหลีใต้ต่างมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก"

ด้านผู้จัดการทีมชาติเกาหลีใต้ ชอย ยัง-อิล กล่าวว่า นักเตะของเกาหลีเหนือเล่นเหมือนกำลังทำสงคราม โดยใช้ทั้งศอก ทั้งมือ และจ้องโจมตีหัวเข่าของนักเตะเกาหลีใต้เป็นอันดับแรก ซึ่งตนไม่เคยเจออะไรอย่างนี้มาก่อน

ชอย ซึ่งเคยเล่นให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ในฟุตบอลโลกปี 1994 กล่าวว่า สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ หรือ KFA จะหารือต่อไปว่าส่งคำร้องไปยังฟีฟ่าหรือไม่ เรื่องที่เกาหลีเหนือไม่อำนวยความสะดวกให้กับทีมที่ไปเยือน และยังห้ามทั้งสื่อมวลชนและคนดูเข้าสนาม

ขณะที่ประธานฟีฟ่า จิอันนี่ อิฟาติโน่ ซึ่งเข้าชมการแข่งขันนัดนี้ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือราว 50 คน กล่าวว่าตนรู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่ไม่เห็นผู้คนบนอัฒจันทน์และไม่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลนัดนี้ไปนอกเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าเกาหลีเหนือได้มอบแผ่นดีวีดีที่บันทึกวิดีโอการแข่งขันให้กับเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ แต่ไม่แน่ชัดว่าเครือข่ายโทรทัศน์เกาหลีใต้จะนำวิดีโอดังกล่าวไปออกอากาศหรือไม่

ทั้งรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทมฟุตบอลเกาหลีใต้ยังไม่ทราบสาเหตุที่เกาหลีเหนือห้ามสื่อและคนดูเข้าสนาม ซึ่งนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าอาจเป้นการแสดงความไม่พอใจของเกาหลีเหนือ ที่มีต่อท่าทีทางการเมืองของเกาหลีใต้

ขณะที่บางคนเชื่อว่า ผู้นำคิม จอง อึน ซึ่งหลงใหลในกีฬาหลายชนิด อาจไม่ต้องการให้เกาหลีเหนือพ่ายแพ้เกาหลีใต้ต่อหน้าผู้ชมจำนวนมากในสนาม

ปัจจุบัน ทีมชาติเกาหลีใต้ถูกจัดอยู่ที่ 37 ของโลก ตามการจัดอันดับของฟีฟ่า ส่วนเกาหลีเหนืออยู่ในอันดับที่ 113 โดยขณะนี้ทั้งสองทีมมีคะแนนเท่ากันที่ 7 คะแนนในกลุ่ม H ของรอบคัดเลือกโซนเอเชีย ซึ่งมีอีกสามทีมร่วมกลุ่ม คือ เลบานอน เติร์กเมนิสถาน และศรีลังกา

สำหรับการแข่งขันนัดต่อไปของสองเกาหลีจะมีขึ้นที่กรุงโซลในเดือนมิถุนายน ปีหน้า