UNAIDS ย้ำว่าต้องเพิ่มความเข้มข้นของงานป้องกันและบำบัดเอดส์ในช่วงห้าปีต่อจากนี้

FILE - A family member takes care of a HIV patient at HIV/AIDS care center founded by Phyu Phyu Thin, a parliament member of Myanmar Opposition Leader Aung San Suu Kyi's National League for Democracy Party, in outskirts of Yangon, Myanmar.

รายงานเตือนว่าหากมาตรการบำบัดและป้องกันเอดส์ไม่ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน โรดเอดส์อาจจะหวนกลับมาระบาดรุนแรงได้อีกภายในห้าปีข้างหน้า

Your browser doesn’t support HTML5

HIV Next Five Years

ประธานบริหารแห่งโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ Michel Sidibe กล่าวว่าห้าปีต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากของงานต่อต้านเอดส์

เขาเตือนว่าหากไม่ขาดความพยายามที่เเข็งขันในการบำบัดและป้องกันการระบาดของโรคเอดส์ โรคเอดส์จะมีผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพของคนและเศรษฐกิจตามมา

นาย Tim Martineau Chief of Staff แห่ง UNAIDS กล่าวว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องจริงจังกับคำเตือนนี้เพราะเป็นคำเตือนที่ดี เขากล่าวว่าทาง UNAIDS เห็นว่าเท่าที่ผ่านมา มีความก้าวหน้าอย่างมากในงานบำบัดและป้องกันโรคเอดส์

แต่ทางโครงการมองว่าห้าปีต่อจากนี้จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากหากต้องการประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเอดส์ให้ได้ภายในอีก 15 ปีข้างหน้า

นาย Martineau ชี้ว่าระดับความพยายามในการควบคุมเอดส์ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันจะไม่เพียงพอในการหยุดยั้งเอดส์ได้สำเร็จตามระยะเวลาเป้าหมาย งานป้องกันและควบคุมเอดส์ที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพดี แต่หากมองไปข้างหน้า จะมีคนติดเชื้อที่เป็นคนหนุ่มคนสาวซึ่งจะมีผลกระทบต่อการระบาดของโรค

นอกจากนี้จะมีจำนวนคนที่ติดเชื้อเอชไอวีแต่ไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเพิ่มความเเข็งขันในงานป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ในอนาคต

นาย Martineau Chief of Staff แห่ง UNAIDS ยังกล่าวด้วยว่ากลุ่มประชากรที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ เขากล่าวว่าในแอฟริกา บรรดาหญิงสาวมีความเสี่ยงสูงมากที่สุดต่อการติดเชื้อเอชไอวีและในยุโรป กลุ่มชายรักเพศเดียวกันมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อและในยุโรปตะวันออกและในรัสเซีย

กลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดจะเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่มีผลให้แต่ละประเทศต้องมีมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่เหมาะสมเฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป

UNAIDS คาดหวังว่าจะมีคนได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีในปีนี้ 15 ล้านคนตามเป้าหมายอย่างไรก็ตาม คุณ Martineau กล่าวว่าอาจจะมีคนอีกหลายล้านคนที่ต้องรับการบำบัดด้วยยาต้านไวรัสโดยคนเหล่านี้ไม่รู้ตัวว่าตนติดเชื้อเอชไอวี

นาย Martineau Chief of Staff แห่ง UNAIDS กล่าวว่า คาดว่าจะต้องมีการเพิ่มเงินสนับสนุนงานป้องกันและควบคุมเอดส์ อย่างต่อเนื่องและต้องการเห็นประชาคมโลกให้การสนับสนุนทางการเงินต่อไปในอนาคตเหมือนกับที่ผ่านมา เพียงแต่ควรเพิ่มสูงขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป

ทาง UNAIDS และ Lancet Commission เตือนว่าไม่ควรตายใจว่าปัญหาโรคเอดส์ทุเลาลงแล้ว นอกจากนี้ยังชี้ว่าจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นในการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์ให้ครอบคลุมทุกด้านตั้งแต่เพิ่มเงินสนับสนุน เพิ่มการเข้าถึงการบำบัดในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติด ส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยอย่างกว้างขวาง ส่งเสริมการขลิบในผู้ชาย ส่งเสริมการใช้ยาต้านไวรัสเอชไอวีในรูปของการป้องกัน

ตลอดจนความพยายามทางกฏหมายเพื่อต่อต้านการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน