ไขข้อข้องใจ - ทำไมบุตรเจ้าชายแฮร์รี-เมแกน ไม่ได้เป็น “เจ้าชาย”?

Meghan Markle Prince Harry Archie

หลังจากบทสัมภาษณ์อันโด่งดังของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ที่ดำเนินการสัมภาษณ์โดยพิธีกรหญิงชื่อดังชาวอเมริกัน โอปราห์ วินฟรีย์ เผยแพร่สู่สายตาผู้คนทั่วโลกเมื่อต้นสัปดาห์ ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนมาสู่ราชวงศ์อังกฤษครั้งใหญ่

หนึ่งในข้อกล่าวหาที่ได้รับการพูดถึงนอกจากประเด็นเชื้อชาติแล้ว คือ ฐานันดรศักดิ์ของอาร์ชี ที่ถูกลิดรอนไปเพราะเงื่อนไขด้านสีผิว ตามรายงานของ Associated Press

อาร์ชี พระโอรสของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ถือเป็นรัชทายาทลำดับที่ 7 แห่งราชวงศ์วินด์เซอร์ ปัจจุบันใช้ชื่อเพียงว่า อาร์ชี เมาท์แบทเทน-วินด์เซอร์ (Archie Mountbatten-Windsor) ซึ่งแตกต่างจากเจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ และเจ้าชายหลุยส์ พระโอรสและพระธิดาในเจ้าชายวิลเลียม พระพระเชษฐาของเจ้าชายแฮร์รี ที่ได้เป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงทั้งหมด

เมแกน ให้สัมภาษณ์กับโอปราห์ในเรื่องนี้ว่า เมื่อครั้งที่เธอตั้งครรภ์อาร์ชี “พวกเขา” ซึ่งเธอใช้เรียกคนในราชวงศ์ ไม่ต้องการให้อาร์ชีเป็นเจ้าชาย ซึ่งแตกต่างจากระเบียบของวังที่เคยเป็นมา เธอเข้าใจว่านี่คือสมาชิกในราชวงศ์อังกฤษคนแรกที่เป็นคนผิวสี ซึ่งไม่ได้รับฐานันดรศักดิ์ เหมือนกับพระราชปนัดดาพระองค์อื่นๆ

“อาร์ชี” ถูกกลั่นแกล้งจริงหรือไม่?

อาร์ชี เป็นหนึ่งในพระราชปนัดดา 9 พระองค์ ในสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งไม่ได้มีฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิงทั้งหมด มีเพียงพระราชปนัดดาเพียง 3 พระองค์ ซึ่งเป็นพระโอรสและพระธิดาในเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ รัชทายาทอันดับสองของราชวงศ์อังกฤษ ที่ได้รับฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง

บ็อบ มอร์ริส ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย University College London บอกว่า กฎของราชสำนักที่ระบุไว้ในสมัยสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อ ค.ศ. 1917 มีขึ้นเพื่อจัดระเบียบราชวงศ์ในยุคนั้น ระบุให้ ผู้ที่จะเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง จะต้องเป็นพระโอรสองค์โตของพระโอรสองค์โตของเจ้าชายแห่งเวลส์เท่านั้น ซึ่งนั่นหมายถึง เจ้าชายจอร์จ พระโอรสในเจ้าชายวิลเลียม ที่ได้เป็นเจ้าชายเพียงพระองค์เดียว

แต่ในปี ค.ศ. 2012 ควีนอลิซาเบธ ใช้พระราชอำนาจแก้ไขกฎราชสำนักดังกล่าว ให้พระโอรสและพระธิดาในเจ้าชายวิลเลียมทุกพระองค์ ได้รับฐานันดรศักดิ์เป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงตามไปด้วย

Royal family

ภายใต้กฎของราชสำนักในสมัยสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 ทำให้อาร์ชี ไม่ได้เป็นเจ้าชายในทันที แต่สามารถเป็นได้ก็ต่อเมื่อ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส ขึ้นครองราชย์ไปแล้ว

แต่เมแกน ยืนยันในบทสัมภาษณ์ว่า เธอได้ทราบว่า ราชสำนักต้องการจะเปลี่ยนกฏระเบียบนี้เพื่ออาร์ชีโดยเฉพาะ แต่ไม่มีความชัดเจนว่าสิ่งที่เมแกนกล่าวถึงต้องการจะสื่อว่าอย่างไร แต่ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย University College London ระบุว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส ทรงมีพระดำริว่าต้องการจะมีขนาดราชวงศ์ที่เล็กลงกว่านี้ หากพระองค์ขึ้นครองราชย์

แต่เดิม อาร์ชี มีพระอิสริยยศกิตติมศักดิ์ คือ “ลอร์ด อาร์ชี เมาท์แบทเทน-วินด์เซอร์” แต่ในตอนนั้นเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนเลือกที่จะ “ไม่รับ” พระอิสริยยศกิตติมศักดิ์ดังกล่าว ก่อนที่เมแกนจะเปิดเผยในการสัมภาษณ์ว่า “นี่ไม่ใช่การตัดสินใจของพวกเขา”

บรรดาศักดิ์เกี่ยวข้องกับการอารักขา “อาร์ชี” หรือไม่?

เมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ แสดงความกังวลในการสัมภาษณ์กับโอปราห์ว่า เมื่ออาร์ชีไม่มีฐานันดรศักดิ์เป็น “เจ้าชาย” ทำให้ไม่ได้รับ “การอารักขาด้านความปลอดภัย”

แต่ที่ผ่านมา สมาชิกราชวงศ์อังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง ไม่ได้รับการอารักขาด้านความปลอดภัยในทันที ยกตัวอย่างเช่น เจ้าหญิงเบียทริซและเจ้าหญิงยูจีนี พระธิดาในเจ้าชายแอนดรูว์ ที่เป็นถึงสมาชิกราชวงศ์ระดับสูง (Senior royals) แต่ไม่ได้ปฏิบัติพระกรณียกิจของราชวงศ์ จึงไม่ได้รับการอารักขาด้านความปลอดภัยนั่นเอง

Britain's Princess Beatrice is pictured at the wedding of Princess Eugenie and Jack Brooksbank at St. George's Chapel in Windsor Castle, Oct. 12, 2018.

สมาชิกราชวงศ์อังกฤษที่จะได้รับสิทธิดังกล่าว จะต้องเป็นสมาชิกราชวงศ์ที่ปฏิบัติพระกรณียกิจ ก่อนหน้านี้ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกส์ทรงได้รับการอารักขาอย่างเต็มที่ ในฐานะ Full-time working royal หรือสมาชิกราชวงศ์ที่ปฏิบัติพระกรณียกิจนั้น จะได้รับการอารักขาเต็มรูปแบบ

สำนักพระราชวังอังกฤษเคลื่อนไหวอย่างไร?

ที่ผ่านมา สำนักพระราชวังบัคกิงแฮม ออกแถลงการณ์มาเพียง 1 ฉบับ ความยาว 61 คำ เกี่ยวกับข้อกล่าวหาของเมแกนเรื่องการเหยียดผิวและการที่เธอไม่ได้รับการปกป้องจากราชวงศ์อังกฤษ

ในแถลงการณ์ระบุว่า สมาชิกราชวงศ์ทุกพระองค์ “รู้สึกเสียพระทัย” ที่ได้รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยประเด็นที่ถูกกล่าวถึง โดยเฉพาะเรื่องเชื้อชาติ เป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างยิ่ง และจะต้องได้รับการหารืออย่างจริงจังเป็นการภายใน และว่า เจ้าชายแฮร์รี เมแกน และอาร์ชี จะยังคงเป็นที่รักยิ่งของสมาชิกราชวงศ์ทุกพระองค์ต่อไป

อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ความยาว 61 คำฉบับนี้ มิได้ช่วยให้เสียงวิจารณ์ในแง่ลบที่มีต่อราชวงศ์อังกฤษสงบลงได้แต่อย่างใด