ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เพนตากอนเร่งแก้ปัญหาทหารอเมริกันฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะในกลุ่มทหารชายวัยต่ำกว่า 30 ปี


FILE PHOTO: The Pentagon logo is seen behind the podium in the briefing room at the Pentagon in Arlington, Virginia, U.S., January 8, 2020. REUTERS/Al Drago/File Photo
FILE PHOTO: The Pentagon logo is seen behind the podium in the briefing room at the Pentagon in Arlington, Virginia, U.S., January 8, 2020. REUTERS/Al Drago/File Photo

เมื่อปีที่แล้วการฆ่าตัวตายของเจ้าหน้าที่ทหารในกองทัพสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 15% โดยส่วนใหญ่มาจากการฆ่าตัวตายของทหารในกองทัพบกและในกองกำลังนาวิกโยธิน และถ้าพิจารณาจากตัวเลขแล้วในปี 2020 มีทหารอเมริกันฆ่าตัวตาย 580 รายเมื่อเทียบกับ 504 รายในปีก่อนหน้าคือปี 2019 ซึ่งก็เป็นแนวโน้มที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ลอยด์ ออสตินกล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวล

เท่าที่ผ่านมาการฆ่าตัวตายของทหารอเมริกันรวมทั้งสมาชิกในครอบครัวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้วแต่สาเหตุของเรื่องนี้ยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างแน่ชัด และผู้นำกองทัพสหรัฐฯ ก็เชื่อว่าโรคระบาดใหญ่โควิด-19 อาจมีส่วนช่วยสร้างความเครียดและความกดดันให้กับสมาชิกในกองทัพของสหรัฐฯ ด้วยเพราะเมื่อปีที่แล้วได้มีการระดมกำลังทหารของรัฐบาลกลางไปช่วยในภารกิจเกี่ยวกับโควิด-19 นับตั้งแต่การช่วยตรวจหาเชื้อโควิด-19 และการฉีดวัคซีนขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารบางคนรวมทั้งสมาชิกในครอบครัวก็มีปัญหาจากโรคนี้ด้วยเช่นกัน

เรื่องดังกล่าวนับเป็นความกดดันเพิ่มเติมนอกเหนือจากเรื่องการถูกส่งไปประจำการในพื้นที่สงครามในต่างแดน ภัยพิบัติธรรมชาติ และการรักษาความสงบในเหตุการณ์วุ่นวายต่างๆในประเทศซึ่งต้องมีการระดมกำลังทหารของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มาช่วยปฏิบัติภารกิจ รวมทั้งเรื่องปัญหาความเครียดเกี่ยวกับการเงินและจากชีวิตสมรสด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยอมรับว่าขณะนี้กระทรวงกลาโหมยังไม่สามารถอธิบายถึงเหตุผลที่ทหารอเมริกันฆ่าตัวตายมากขึ้นในช่วงห้าปีหลังนี้

แต่ขณะที่การฆ่าตัวตายของทหารอเมริกันในกองทัพบกและกองกำลังนาวิกโยธินเพิ่มขึ้นนั้น ตัวเลขการฆ่าตัวตายในกองทัพเรือสหรัฐฯ ของเมื่อปีที่ผ่านมาลดลงจาก 81 รายเหลือ 79 ราย ส่วนการฆ่าตัวตายในกองทัพอากาศของสหรัฐฯ ยังอยู่เท่าเดิมคือ 109 ราย แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็บอกกับผู้สื่อข่าวว่าอัตราการฆ่าตัวตายต่อเจ้าหน้าที่ในกองทัพ 100,000 รายนั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นโดยมีนัยยะสำคัญทางสถิติแต่อย่างใด

ตามข้อมูลของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ บุคลากรในกองทัพที่มีอัตราการฆ่าตัวตายมากที่สุดคือทหารระดับล่างหรือที่เรียกว่า enlisted men ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีซึ่งมีสัดส่วนของการฆ่าตัวตายมากถึง 63% จากจำนวนผู้ที่ฆ่าตัวตายทั้งหมด และวิธีที่เจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันเหล่านี้ใช้ในการจบชีวิตตนเองมากที่สุดคือใช้อาวุธปืน ตามมาด้วยการแขวนคอตัวเองหรือการทำให้หายใจไม่ออก

ที่มา: AP

XS
SM
MD
LG