ลิ้งค์เชื่อมต่อ

วิเคราะห์ปฏิกิริยาต่างประเทศ เมื่อ ‘ทรัมป์’ ต้องเผชิญเสียงข้างมากของเดโมแครตในสภาผู้แทนฯ


Christine Fox and her daughter Emmylou Fox from Washington state wait for the results of the U.S. midterm elections during a gathering organized by Democrats Abroad in Beijing, China, Nov. 7, 2018.
Christine Fox and her daughter Emmylou Fox from Washington state wait for the results of the U.S. midterm elections during a gathering organized by Democrats Abroad in Beijing, China, Nov. 7, 2018.
please wait

No media source currently available

0:00 0:04:32 0:00

ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้ดุลอำนาจในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงไป เพราะพรรคเดโมแครตที่เป็นเสียงข้างน้อยกลับมาคุมเก้าอี้เกินกึ่งหนึ่งของสภาล่าง

การเปลี่ยนแปลงนี้อาจมีผลต่อนโยบายต่างประเทศ แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า นานาชาติคงอาจไม่เห็นแนวทางการทูตที่พลิกผันไปจากเดิมนัก

ปีเตอร์ ทรูโบวิทซ์ (Peter Trubowitz) อาจารย์วิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากมหาวิทยาลัย London School of Economics ที่อังกฤษ กล่าวว่า เมื่อการเมืองภายในสหรัฐฯ มีข้อจำกัดต่อการใช้อำนาจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เขาอาจมองว่าบทบาททางการทูตของตนยังพื้นที่ให้แสดงบทบาทมากอยู่

อาจารย์ทรูโบวิทซ์ กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ อาจใช้นโยบายที่เข้มข้นขึ้นอีก เรื่องการค้ากับจีน การทูตกับอิหร่าน และการควบคุมพรมแดนกับเม็กซิโก ยิ่งไปกว่านั้น นักวิชาการผู้นี้บอกว่า พรรคเดโมแครตเองอาจสนับสนุนท่าทีของทรัมป์ต่อจีนด้วย

ที่ผ่านมารัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการภาษีนำเข้าต่อสินค้ามูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์ จากการที่จีนมีมาตรการที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ในอีกด้านหนึ่งของโลก ทางการเยอรมนีกล่าวว่า ผลการเลือกตั้งนี้อาจไม่ผ่อนคลายความตึงเครียดในเวทีระหว่างประเทศ

รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ไฮโค มาส (Heiko Maas) กล่าวว่ายุโรปยังคงต้องหาทางรับมือกับนโยบาย America First ของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ใช้การคำนึงถึงผลประโยชน์ของอเมริกาอันดับแรก เป็นเข็มทิศสำหรับนโยบายต่างๆ

ส่วนที่รัสเซีย โฆษกของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกรุงวอชิงตันและรัฐบาลมอสโก คงไม่เปลี่ยนแปลงหลังการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ

อาจารย์ทรูโบวิทซ์ จาก London School of Economics กล่าวว่า ผู้นำโลกจากประเทศต่างๆ อาจขอรอดูท่าทีสหรัฐฯ ว่าจะเป็นอย่างไร เขาบอกว่า ช่วงระยะเวลาจากนี้ 2 ปีก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ รอบใหม่ รัฐบาลของหลายประเทศ เช่น อิหร่าน จีน และยุโรป น่าจะพิจารณาผลได้ผลเสียอย่างรอบคอบ เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับอเมริกา

อย่างไรก็ตาม มีตัวแทนของผู้นำบางคนที่แสดงทัศนะอย่างชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทพรรคเดโมแครตในสภาสหรัฐฯ

นายนาบิล ชาธ (Nabil Shaath) หนึ่งในคณะทำงานของประธานาธิบดีปาเลสไตน์ มาห์มูด อับบาส (Mahmoud Abbas) กล่าวว่า พรรคเดโมแครตกำลังเดินเข้าใกล้จุดที่อาจทำให้เกิดกระบวนการสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์

ขณะเดียวกัน รัฐบาลอิสราเอลได้เร่งเร้าให้ประธานาธิบดีทรัมป์ ดำเนินแผนสันติภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากสหรัฐฯ ตัดสินใจย้ายสถานทูตอิสราเอลจากเมืองเทล อาวีพ ไปที่ เยรูซาเลม

แม้การสร้างสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ยังคงต้องมีงานซึ่งยังรอการสานต่อ แต่ผลการเลือกตั้งวันอังคาร ได้รับความชื่นชมเรื่องความหลากหลายในประชาธิปไตยของสหรัฐฯ เมื่อตัวแทนสตรีพรรคเดโมแครต ราชิดา ทลาอิบ (Rashida Tlaib) ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. คนแรกเชื้อสายอาหรับปาเลสไตน์ผู้นับถือศาสนาอิสลาม

(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Henry Ridgwell)

XS
SM
MD
LG