เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ออกมาเรียกร้องในวันจันทร์ ให้ชาติพัฒนาแล้วทั้งหลายทำตามสัญญาที่จะส่งมอบเงินรวมกันเป็นจำนวน 100,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในประเทศที่กำลังพัฒนา ก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนที่ประเทศอียิปต์
อันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่ยูเอ็น บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “การหาทุนเพื่อช่วยการปรับตัวและ(ส่งเสริม)ความยืดหยุ่นนั้นต้องมาจากอย่างน้องครึ่งหนึ่งของเงินทุนเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ”
ในสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีจากประเทศต่าง ๆ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศและตัวแทนจากกลุ่มประชาสังคมมีกำหนดเข้าร่วมประชุมกันที่กรุงกินชาซา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เพื่อหารือวาระต่าง ๆ สำหรับการประชุมที่รู้จักกันในชื่อ COP27 ระหว่างวันที่ 6 และ 18 พฤศจิกายน
ยูเอ็น ระบุว่า ประเทศในกลุ่มจี-20 นั้นมีส่วนรับผิดชอบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 80% ของการปล่อยก๊าซดังกล่าวทั่วโลก แต่กลับทำการอย่างเชื่องช้าในการนำส่งเงินสนับสนุนให้ถึงเป้าปีละ 100,000 ล้านดอลลาร์
เลขาฯ กูเทอเรซ กล่าวว่า “เมื่อคิดรวมกันแล้ว คำสัญญาว่าจะให้(เงินทุน) และนโยบายต่าง ๆ ในปัจจุบันนั้นปิดโอกาสที่เราจะจำกัดการปรับขึ้นของอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 2 องศาเซลเซียส โดยไม่ต้องพูดถึงเป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียสเลย”
สิ่งที่เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นกล่าวถึงนั้นคือ เป้าหมายการลดอุณหภูมิโลกตามความตกลงปารีสปี 2015
ยูเอ็น ยังเตือนด้วยว่า การล้มเหลวที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวนั้นหมายถึง หายนะทางภูมิอากาศสำหรับโลกของเราด้วย
เลขาฯ กูเทอเรซ ระบุว่า รัฐบาล ธุรกิจ นักลงทุน และสถาบันทุกแห่ง ต้องยกระดับการดำเนินงานด้านการจัดการกับสภาพภูมิอากาศให้มากขึ้นได้แล้ว และว่า “ผมร้องขอให้ผู้นำที่อยู่ในระดับสูงสุดทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในงาน COP27 และบอกให้ทั่วโลกรับรู้เกี่ยวกับแผนการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศอันเป็นรูปธรรมของตนด้วย”
- ที่มา: วีโอเอ