ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ยอดปลดพนักงานสหรัฐฯ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี


FILE - People line up outside a newly reopened career center for in-person appointments in Louisville, U.S., April 15, 2021.
FILE - People line up outside a newly reopened career center for in-person appointments in Louisville, U.S., April 15, 2021.

การปลดพนักงานของบริษัทอเมริกัน ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปี ท่ามกลางกระแสข่าวปรับลดพนักงานในบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นข่าวครึกโครมในช่วงที่ผ่านมา ตามรายงานของรอยเตอร์

รายงานจากบริษัทจัดหางาน Challenger, Gray & Christmas Inc. ที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า เฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การปลดพนักงานในสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 77,770 ตำแหน่ง มากกว่าการปรับลดพนักงาน 15,245 ตำแหน่งเมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 5 เท่าตัว

ส่วนการจ้างงานใหม่ ในรายงานฉบับนี้ยังระบุด้วยว่า บริษัทอเมริกันประกาศแผนจ้างงาน 28,830 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 87% จากระดับการจ้างงานใหม่ 215,127 ตำแหน่งในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ขณะที่การปลดพนักงานช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ อยู่ที่ 180,000 ตำแหน่ง ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2009 โดยบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันมีสัดส่วนการปลดพนักงานมากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนพนักงานที่ปรับลดลงไปในช่วงเวลา 2 เดือนแรกของปีนี้

แอนดรูว์ ชาเลนเจอร์ รองประธานอาวุโสของบริษัท Challenger, Gray & Christmas Inc. ที่จัดทำรายงานฉบับดังกล่าว เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า “ตอนนี้การปลดพนักงานจำนวนมากกำลังเกิดขึ้นในภาคเทคโนโลยี ส่วนภาคค้าปลีกและการเงินกำลังเริ่มปรับลดพนักงานลงบ้างแล้วเนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มสอดรับกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นอยู่”

บริษัทเทคโนโลยีตั้งแต่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และอัลฟาเบต (Alphabet) บริษัทแม่ของกูเกิล (Google) ไปจนถึงเพย์พาล (PayPal) ประกาศปลดพนักงานจำนวนมากในปีนี้เพื่อลดค่าใช้จ่ายภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

อย่างไรก็ตาม ตลาดเงินตลาดทุนขานรับข่าวการปลดพนักงานในเชิงบวก โดยเจมส์ เทียร์นีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุนจาก Alliance Bernstein เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า “การประกาศข่าวการปลดพนักงานของบริษัทเหล่านี้เป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับผู้ลงทุน เพราะเหมือนกับการปรับโครงสร้างด้านต้นทุน และการปรับทิศทางการเติบโตของธุรกิจอย่างเหมาะสมกำลังเป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้ลงทุน”

ทั้งนี้ ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ทั้งไมโครซอฟท์ อัลฟาเบต แอมะซอน (Amazon) และเมตา แพลตฟอร์มส (Meta Platforms) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก (Facebook) ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 6%-54% แล้วในปีนี้ หลังจากร่วงหนักราว 29%-64% เมื่อปีที่แล้ว

เมื่อวันพุธ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด กล่าวย้ำว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่สูงขึ้นและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเร่งให้บริษัทอเมริกันหั่นจำนวนพนักงานลงไปอีกได้

  • ที่มา: รอยเตอร์
XS
SM
MD
LG