ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ มีแถลงการณ์เพิกถอนสิทธิการเข้าถึงข้อมูลลับของอดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ หรือ CIA นายจอห์น เบรนแนน (John Brennan) โดยระบุว่า นายเบรนแนนเป็นผู้ทำให้เกิดความแตกแยกและวุ่นวายในรัฐบาลสหรัฐฯ
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของ ปธน.ทรัมป์ ยังระบุว่ากำลังมีการพิจารณาสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลลับของอดีตเจ้าหน้าที่หลายคน รวมถึง อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายเจมส์ แคล็ปเปอร์ (James Clapper) อดีต ผอ.เอฟบีไอ นายเจมส์ โคมมีย์ (James Comey) อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาล ปธน.บารัค โอบามา ซูซาน ไรซ์ (Susan Rice) อดีต ผอ.สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ นายไมเคิล เฮย์เดน (Michael Hayden) และอดีตรองรัฐมนตรียุติธรรม แซลลี เยทส์ (Sally Yates)
โฆษกทำเนียบขาว ซาราห์ ฮัคเคอร์บี แซนเดอร์ส อ่านคำแถลงดังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวในวันพุธว่า ผู้ที่มีชื่อเหล่านี้จะถูกเพิกถอนสิทธิการเข้าถึงข้อมูลลับของรัฐบาลสหรัฐฯ และผู้ที่เสียสิทธินั้นไปแล้วจะไม่สามารถเรียกสิทธิดังกล่าวกลับคืนได้
โฆษกแซนเดอร์ส ยังได้ปฏิเสธคำถามของผู้สื่อข่าวที่ว่าการที่นายเบรนแนนและคนอื่นๆ ถูกถอนสิทธิในครั้งนี้เพราะสร้างความไม่พอใจจากการวิจารณ์ ปธน.ทรัมป์
ที่ผ่านมา นายเบรนแนนได้วิพากษ์วิจารณ์ ปธน.ทรัมป์ อย่างรุนแรงและตรงไปตรงมาหลายครั้ง เช่น การเรียกท่าทีของทรัมป์ระหว่างการประชุมกับ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เมื่อเดือนที่แล้วว่า "เป็นการขายชาติ"
ด้านนายเบรนแนน ทวีตข้อความในวันพุธเช่นกัน โดยบอกว่าการกระทำของ ปธน.ทรัมป์ ครั้งนี้ คือความพยายามปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และลงโทษผู้ที่วิจารณ์ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ประชาชนอเมริกันควรกังวลต่อผลที่กเิดขึ้นจากการพูดความคิดของพวกเขาเอง
นายเบรนแนน ซึ่งทำงานกับซีไอเอมา 25 ปี กล่าวด้วยว่า "อุดมการณ์ของตนมีค่ายิ่งกว่าสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลลับของรัฐบาล"
ตามปกติแล้ว อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ จะสามารถรักษาสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลลับไว้แม้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว เพื่อให้สามารถให้คำปรึกษาต่อเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน หรือไปรับทำงานในส่วนที่เกี่ยวกับข่าวกรองให้กับหน่วยงานเอกชนที่ได้รับสัญญาจากรัฐบาลสหรัฐฯ