ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะร่วมการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย วันจันทร์ ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นชาติเป็นกลางระหว่างสองประเทศคู่เจรจา
ขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนการพบกัน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งความหวังไว้สูงจากการประชุมครั้งนี้
ในส่วนของประธานาธิบดีปูติน อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำรัสเซีย นาย Michael McFaul กล่าวว่า ผู้นำรัสเซียน่าจะต้องการเพียงภาพของความเป็นมิตร
เขากล่าวว่า เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จจากการเจรจา สิ่งที่ปูตินต้องการคือการให้โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวคำพูดดีๆ ต่อตน และอยากให้ทรัมป์ส่งสัญญาณว่าได้ก้าวข้ามประเด็นขัดแย้งจากสิ่งที่รัสเซียทำในช่วงที่ผ่านมา 3 ปี
ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลวอชิงตันและทำเนียบเครมลินได้รับผลกระทบจากการผนวกแคว้นไครเมียของยูเครนให้เป็นของรัสเซีย และการที่อเมริกากล่าวโทษรัสเซียว่าแทรกแซงการเมืองสหรัฐฯ ช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีอมริกันเมื่อ 2 ปีก่อน
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า ทรัมป์และปูติน ต้องการอะไรจากอีกฝ่ายหนึ่ง นอกจากคำพูดทางการทูตที่ไม่ได้มีน้ำหนักในทางปฏิบัติ
นักวิเคราะห์ Nadezhda Arbatova จากสถาบัน Institute for World Economy and International Relation ที่กรุงมอสโก กล่าวว่า อาจมีการยอมรับข้อเสนอกันและกันในเรื่องซีเรีย หากว่ารัสเซียเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องจากสหรัฐฯ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยให้นายบาชาร์ อัลอาซาด ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีซีเรียได้ต่อไป
ในเรื่องของยูเครน นักวิเคราะห์ผู้นี้กล่าวว่า ไม่น่ามีความเป็นไปได้ว่าการต่อรองใดๆ จะบรรลุผล โดยให้เหตุผลว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่สามารถดำเนินการใดๆ เพื่อยกเลิกมาตรการลงโทษรัสเซีย โดยไม่ผ่านรัฐสภา
บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียมีความซับซ้อนขึ้นมาอีกระดับ หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ ชาวรัสเซีย 12 คน ถูกตั้งข้อหาเจาะล้วงระบบคอมพิวเตอร์ของพรรคเดโมเครตช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อ 2 ปีก่อน ตามการดำเนินเรื่องของอัยการพิเศษ นายโรเบิร์ต มูลเลอร์ ที่สืบสวนเรื่องบทบาทของรัสเซียต่อเมืองการเมืองอเมริกัน
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวหลายครั้งว่า การทำงานของอัยการพิเศษซึ่งนำไปสู่การเอาผิดคนที่เคยทำงานให้ทรัมป์ช่วงการเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการ "ล่าแม่มด" ส่วนประธานาธิบดีปูตินกล่าวหลายครั้งเช่นกันว่า รัสเซียไม่ได้แทรกแซงการเมืองสหรัฐฯ
วุฒิสมาชิกจอห์น แม็คเคน จากพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า ประธานาธิบดี ทรัมป์ควรที่จะกล้าเผชิญหน้ากับประธานาธิบดีปูติน เรื่องท่าทีก้าวร้าวของมอสโกต่อสหรัฐฯ และประชาธิปไตยในที่ต่างๆ ของโลก
จอห์น แม็คเคน กล่าวว่า หากทรัมป์ไม่พร้อมที่จะทำให้รัสเซียรับผิดชอบต่อการกระทำที่ผ่านมา การประชุมที่เฮลซิงกิควรถูกเลื่อนออกไป
การพบกันครั้งนี้ระหว่างผู้นำทั้งสองจะเป็นการพูดคุยแบบตัวต่อตัว ผ่านล่าม โดยไม่มีผู้อื่นเข้าหารือด้วย และคาดว่าจะใช้เวลาเจรจากันราว 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
(รายงานโดย Steve Herman และ Bill Gallo / รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง)