ลิ้งค์เชื่อมต่อ

'ทรัมป์-ไบเดน' ปะทะคารมกรณีประท้วงและความรุนแรงด้านสีผิว


Trump and Biden
Trump and Biden

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน และอดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครต กล่าวหากันและกันว่าเป็นต้นเหตุของความรุนแรงบนท้องถนน ซึ่งเชื่อมโยงถึงปัญหาการเหยียดสีผิว และการปฏิบัติของตำรวจต่อชนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความในวันจันทร์ว่า ตนมีแผนจะเดินทางไปยังเมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน ในวันอังคารนี้ หลังจากเกิดการประท้วงตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สืบเนื่องจากเหตุการณ์ตำรวจยิงชายผิวดำ เจคอบ เบล็ค เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม

การประท้วงลุกลามไปเป็นความรุนแรง เมื่อมีเหตุยิงกันทำให้มีผู้เสียชีวิตสองราย บาดเจ็บหนึ่งราย โดยตำรวจสามารถจับกุมวัยรุ่นผิวขาวผู้หนึ่งชื่อ ไคลน์ ริทเทนเฮาส์ ที่เชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

ประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตว่า ความรุนแรงที่เมืองเคโนชา และความวุ่นวายที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ทำให้ "โจผู้เชื่องช้า" ต้องยอมออกมาจากห้องใต้ดินของบ้านในรัฐเดลาแวร์

ด้านนายไบเดน กล่าวปราศรัยหาเสียงที่นครพิตตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย กล่าวหาปธน.ทรัมป์ ว่าเป็นต้นเหตุของความรุนแรงที่ลุกลามไปทั่วประเทศ ทั้งการประท้วงโดยกลุ่มเรียกร้องสิทธิของชนกลุ่มน้อยในอเมริกา และการปะทะกันของกลุ่มที่มีความเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน

นายไบเดน ตั้งคำถามต่อผู้ร่วมฟังการปราศรัยว่า "มีใครเชื่อไหมว่า อเมริกาจะมีความรุนแรงน้อยลง หากประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับเลือกตั้งเข้ามาอีกสมัย?"

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในวันสุดท้ายของการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน โดยยกตัวอย่างความรุนแรงในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน ว่าจะเป็นสภาพของอเมริกาในอนาคตหากนายไบเดนชนะเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. นี้ และว่า "คนอเมริกันจะไม่ปลอดภัยหากโจ ไบเดน ชนะเลือกตั้ง"

ขณะที่นายไบเดน กล่าวตอบโต้ผ่านสถานีข่าว MSNBC ว่า ปธน.ทรัมป์ มองว่าความรุนแรงบนท้องถนนคือประโยชน์สำหรับตนเอง ดังนั้นสิ่งที่ทรัมป์ต้องการคือความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น

โดยก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ได้รีทวีตภาพคาราวานยานพาหนะของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ที่กำลังเคลื่อนพลไปยังเมืองพอร์ตแลนด์ พร้อมเรียกคนเหล่านั้นว่า "ผู้รักชาติ" ก่อนที่จะเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้นิยมทรัมป์ดังกล่าวกับผู้ประท้วง Black Lives Matter ในเมืองพอร์ตแลนด์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย

XS
SM
MD
LG