ในวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายนซึ่งตรงกับวันขอบคุณพระเจ้านี้ ชาวอเมริกันกลับมาชมการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลจนเต็มสนาม เข้าร่วมงานขบวนพาเหรด และร่วมสังสรรค์กับครอบครัว บรรยากาศการเฉลิมฉลองเหล่านี้กลับมาอีกครั้งหลังจากที่การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากต้องอยู่แต่ที่บ้านเมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
เทศกาลขอบคุณพระเจ้านี้มีที่มาย้อนไปในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 จากเหตุการณ์ที่ผู้อพยพจากยุโรปซึ่งไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในอเมริกาและชาวอเมริกันพื้นเมืองรวมตัวเฉลิมฉลองและแบ่งปันพืชผลที่เก็บเกี่ยวได้ในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ในปัจจุบัน เทศกาลขอบคุณพระเจ้าเป็นช่วงวันหยุดยาวที่สมาชิกครอบครัวต่างเดินทางมารวมตัวเพื่อรับประทานอาหารร่วมกัน
เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ยอดโควิดพุ่งสูงในสหรัฐฯ ชาวอเมริกันจำนวนมากรับประทานไก่งวงร่วมกันผ่านโปรแกรมวิดีโอคอลออนไลน์ แต่ในปีนี้ การฉีดวัคซีนช่วยให้การควบคุมการระบาดทำได้ดีขึ้น และคาดว่าจะเป็นผลให้ผู้คนราว 53.4 ล้านคนเดินทางในช่วงเทศกาลดังกล่าว ซึ่งเป็นจำนวนสูงกว่าปีที่แล้ว 13 เปอร์เซ็นต์ จากข้อมูลของสมาคมยานยนต์อเมริกัน ขณะที่การเดินทางทางอากาศก็คาดว่าจะฟื้นตัวได้ราว 91 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่จะเกิดการระบาดด้วย
นอกจากนี้ เวลาเที่ยงคืนหลังวันขอบคุณพระเจ้ายังถือเป็นการเริ่มฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยช่วงคริสต์มาสอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งมักสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้นด้วย สำหรับปีนี้ ร้านค้าปลีกต่างเริ่มโฆษณาข้อเสนอพิเศษช่วงเทศกาลตั้งแต่เดือนกันยายน เนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่อาจทำให้สินค้ามาถึงช้าลง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Adobe Digital Economy Index ระบุว่าการลดราคาสินค้าเป็นไปในระดับพอประมาณ โดยร้านค้าปลีกลดราคาสินค้าเพียง 5- 25 เปอร์เซ็นต์ในวันศุกร์
เทศกาลขอบคุณพระเจ้านี้ นอกจากจะเป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวรวมตัวกันรับประทานไก่งวงและของหวานแล้ว ยังเป็นช่วงการบริจาคสิ่งของจำนวนมากให้คนที่ยากจนและขาดอาหารด้วย ตัวอย่างเช่น ธนาคารอาหารในนครลอสแอนเจลิสที่รณรงค์รับบริจาคอาหารสำหรับคนยากจนให้สามารถเข้ามารับอาหารได้ก่อนถึงช่วงเทศกาล
วิคตอเรีย ลาซาวัธ ผู้จัดการด้านการตลาดของธนาคารอาหารดังกล่าว ระบุว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เกิดความไม่มั่นคงทางอาหารมากขึ้น โดยทางธนาคารและผู้ร่วมงานได้มอบอาหารให้ผู้คนถึง 900,000 คนต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นสามเท่าเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด
แม้จะเป็นในช่วงเทศกาล แต่ชาวอเมริกันยังคงตระหนักถึงการระบาดของโรคโควิด-19 ที่มียอดผู้ติดเชื้อ 95,000 คนต่อวัน ข้อมูลที่สำนักข่าวรอยเตอร์ติดตามระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ไปแล้วกว่า 777,000 คนในสหรัฐฯ แต่ยอดผู้เสียชีวิตในขณะนี้อยู่ที่หลักร้อย ไม่ได้อยู่ที่หลักพันต่อวันเหมือนช่วงก่อนหน้านี้
มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 ลดลงและมีการผ่อนคลายการรวมตัวทางสังคมมากขึ้น เช่น แฟนฟุตบอลสามารถไปรวมตัวในสนามแข่งอเมริกันฟุตบอลสามแห่งเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่ไม่มีผู้เข้าชมเลยเมื่อปีที่แล้ว ทางฝั่งมหานครนิวยอร์ก มีผู้เข้าชมขบวนพาเหรดประจำเทศกาลที่จัดโดยห้างสรรพสินค้าเมซีส์ หลังจากที่งานพาเหรดปีที่แล้วถูกลดขนาดลงและไม่เปิดให้สาธารณชนเข้าชม
ทั้งนี้ ขบวนพาเหรดในมหานครนิวยอร์กมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ และมีผู้ชมราว 50 ล้านคน และเป็นหนึ่งในงานใหญ่ที่สุดของเมืองนี้ โดยจุดเด่นซึ่งเป็นที่สนใจได้แก่บอลลูนบรรจุก๊าซฮีเลียมรูปตัวการ์ตูนหรือของเล่นขนาดใหญ่ที่มีความยาวสูงสุดถึง 22 เมตร เช่นเดียวกับงานฉลองส่งท้ายปีเก่าและงานขบวนพาเหรดเฉลิมฉลองของกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศด้วย
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์
