ชาวเมียนมาหลายพันคนเดินขบวนในนครย่างกุ้งในวันอาทิตย์ เรียกร้องให้มีการลุกฮือของประชาชนคนหนุ่มสาว หรือ "spring revolution" หลังจากเกิดการรัฐประหารรัฐบาลพลเรือนของเมียนมาเมื่อสามเดือนก่อน นำไปสู่การประท้วงในหลายเมืองและการปราบปรามของกองทัพที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน
ผู้ประท้วงร่วมเดินขบวนในช่วงเช้าตรู่วันเสาร์ที่ย่างกุ้ง นำโดยกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ชูสัญลักษณ์สามนิ้วและตะโกนขับไล่เผด็จการ เช่นเดียวกับที่รัฐฉานทางภาคตะวันออกที่ซึ่งประชาชนต่างชูป้ายที่มีข้อความต่อต้านการปกครองของรัฐบาลทหารเมียนมา ก่อนที่จะเปิดการปะทะกันกับกองกำลังความมั่นคง มีรายงานผู้เสียชีวิต 1 ราย
ขณะเดียวกัน มีรายงานระเบิดหลายครั้งในหลายพื้นที่ของนครย่างกุ้ง รวมทั้งที่รัฐคะฉิ่น ทางเหนือของเมียนมา ซึ่งมีรายงานทหารยิงใส่ผู้ประท้วงและโยนระเบิดในฝูงชน
องค์กร Assistance Association for Political Prisoners หรือ AAPP รายงานว่า จนถึงขณะนี้ทหารและตำรวจเมียนมาได้สังหารประชาชนไปแล้ว 759 คน ซึ่งขัดกับตัวเลขของกองทัพเมียนมาที่ระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 258 คน และมีตำรวจกับทหารเสียชีวิต 24 คน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ชาวบ้านชาติพันธุ์กะเหรี่ยงหลายพันคนในเมียนมาเตรียมข้ามมายังฝั่งไทยหากการสู่รบระหว่างกองทัพบกเมียนมาละกลุ่มติดอาวุธกะเหรี่ยงทวีความรุนแรงขึ้น
กลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารกะเหรี่ยงและกองทัพบกเมียนมาปะทะกันใกล้ชายแดนเมียนมา-ไทย มาหลายสัปดาห์นับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยชาวบ้านกะเหรี่ยงรายหนึ่งบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เขาและครอบครัวเดินทางจากค่ายผู้พลัดถิ่นในเมียนมา ข้ามแม่น้ำสาละวินเข้ามายังฝั่งไทยในสัปดาห์นี้ หลังได้ยินมาว่าพวกเขาอาจถูกฝั่งเมียนมายิง
กลุ่ม Karen Peace Support Network ระบุว่า ชาวบ้านหลายพันคนปักหลักอยู่ที่ริมแม่น้ำสาละวินฝั่งเมียนมา และจะหนีข้ามมายังฝั่งไทยหากการปะทะรุนแรงขึ้น โดยทางกลุ่มระบุทางเฟซบุ๊กว่า ชาวกะเหรี่ยงกว่า 8,000 คนจะข้ามมายังฝั่งไทยในอีกไม่กี่วันนี้ และพวกเขาหวังว่ากองทัพบกไทยจะช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงลี้ภัยสงคราม
