รถจักรยานยนต์ของสิงห์นักบิดและเหล่าทหารผ่านศึก เคลื่อนตัวเข้าสู่ท้องถนนในกรุงวอชิงตัน ของสหรัฐฯ ในขบวนพาเหรด Rolling Thunder's Ride for Freedom ประเพณีที่ดำเนินมาต่อเนื่องกว่า 32 ปี ในสุดสัปดาห์ของวัน Memorial Day หรือวันรำลึกถึงผู้วายชนม์ในสงครามสหรัฐฯ
ขบวนรถจักรยานยนต์ Rolling Thunder's Ride for Freedom เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2530 ด้วยรถจักรยานยนต์เพียง 2,500 คัน เพื่อเป้าหมายในการสร้างความตระหนักรู้และรำลึกถึงผู้วายชนม์ในสงครามที่สหรัฐฯเข้าร่วม อีกทั้งยังเคยมีส่วนสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการกดดันให้ทางการสหรัฐฯ เห็นความสำคัญและรำลึกถึงเชลยศึกและผู้ที่สูญหายไปในสงครามมากขึ้น
น่าเสียดายที่ในปีนี้เหล่านักบิดเพื่อเสรีภาพ จะโลดแล่นบนถนนทั่วกรุงวอชิงตันเป็นปีสุดท้าย เมื่อคณะผู้จัดงาน Rolling Thunder ประกาศให้ปีนี้เป็นปีสุดท้ายของการจัดงาน ทำให้เหล่าไบค์เกอร์หลายแสนคนทั่วอเมริกา ต่างมุ่งหน้ามาร่วมขบวนพาเหรดครั้งประวัติศาสตร์นี้กันอย่างคึกคัก
ส่วนหนึ่งในนั้น คือ เหล่าสิงห์นักบิดชาวไทยในแถบกรุงวอชิงตัน รวมทั้งนักบิดไทยจากนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ เดินทางไกลกว่าสิบชั่วโมง เพื่อเข้าร่วมในประวัติศาสตร์หน้าสุดท้ายของขบวน เพื่อมาสมทบกับนักบิดจากรัฐอื่นๆ ในขบวน Rolling Thunder's Ride for Freedom ครั้งสุดท้ายนี้ ซึ่งคุณทินกร ปิ่นสุวรรณ คุณดุษฎี บุญหลง คุณพิชัย ศุภนิศานุวงศ์ และคุณรวีวิชญ์ บัวสุข ไบค์เกอร์ชาวไทยในแถบตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ต่างบอกว่ารู้สึกใจหาย แต่ก็ยังเชื่อว่าจะไม่ใช่ปีสุดท้ายจริงๆ
ตลอดสองข้างทางของขบวนสิงห์นักบิดที่เคลื่อนตัวไปในหลายจุดในแถบกรุงวอชิงตัน เต็มไปด้วยชาวอเมริกันคอยต้อนรับและให้กำลังใจตลอดเส้นทาง เพื่อแสดงการสนับสนุนและรำลึกถึงทหารหาญผู้เสียสละ ด้วยความเป็นหนึ่งเดียว
แบรนดี แอลเลน หนึ่งในผู้เข้าชมพาเหรด Rolling Thunder เป็นครั้งแรก บอกว่า ขบวนพาเหรด Rolling Thunder มีความสำคัญเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในสงครามที่สหรัฐฯเข้าร่วมในอดีต และเป็นกิจกรรมพิเศษที่สะท้อนว่าชาวอเมริกันสนับสนุนเหล่าทหารและผู้เสียสละเพื่อชาติในสงครามและความรักชาติของชาวอเมริกัน
ด้านคุณทิม ทแลนด้า อดีตทหารผ่านศึกในสงครามเวียดนาม บอกว่า เป็นเรื่องที่น่าอายที่กิจกรรมนี้จะยุติไป เช่นเดียวกับเหล่าทหารในสงครามเวียดนามที่ยังคงสูญหายอีกหลายพันคน ทั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นในกรุงวอชิงตันวันนี้ก็ทำให้เห็นว่าชาวอเมริกันยังสนับสนุนกิจกรรม Rolling Thunder ให้ดำเนินต่อไปเพื่อแสดงพลังสนับสนุนเหล่าทหารผู้เสียสละ อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่าจะยังคงมีกิจกรรมนี้อีก และแม้จะไม่ใช่ในกรุงวอชิงตัน เขาก็ยังมุ่งมั่นจะติดตามไปให้กำลังใจเหล่านักบิดในกิจกรรม Rolling Thunder นี้ต่อไป
เช่นเดียวกับคุณแมทธิว โกลด์สตัน หนึ่งในสมาชิก Freeman Rider เชื่อว่า กิจกรรม Rolling Thunder จะไม่ใช่ปีสุดท้าย หากมีการเจรจาพูดคุยระหว่างองค์กรผู้จัด Rolling Thunder กับเจ้าของพื้นที่จัดงานอย่างกรุงวอชิงตันและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
แม้ในสายตาของชาวอเมริกัน กิจกรรม Rolling Thunder ในกรุงวอชิงตัน มองว่าเป็นกิจกรรมที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญปีละครั้ง ในสุดสัปดาห์วันหยุด Memorial Day แต่จากปัญหาเรื่องการจัดการริ้วขบวนพาเหรด สถานที่รองรับรถจักรยานยนต์จำนวนมหาศาลในนครหลวงของกรุงวอชิงตันและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน รวมทั้งประเด็นเรื่องงบประมาณที่ยังไม่ได้ข้อสรุป นำไปสู่การสิ้นสุดของขบวนแห่งเสียงคำราม Rolling Thunder ที่ดำเนินมานานกว่า 3 ทศวรรษในปีนี้
แต่ในปีหน้า ทางหน่วยงาน Rolling Thunder ในเขตพื้นที่ต่างๆกว่า 90 แห่งทั่วอเมริกา จะมีการจัดขบวนพาเหรดเนื่องในวัน Memorial Day กระจายออกไปในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อสานต่อประเพณีที่มีมากว่า 3 ทศวรรษให้คงอยู่ เช่นเดียวกับการตระหนักรู้ถึงความเสียสละของทหารกล้ากว่า 83,000 ชีวิตที่สูญหายไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม ที่จะยังได้รับการกล่าวขานสืบไป