ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดในแดนลบทุกตลาด ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีหายเรียบ หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่จะปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ สร้างความกังวลว่าจะเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่อาจสั่นคลอนเสถียรภาพเศรษฐกิจของทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดัชนีดาวน์โจนส์ ปิดร่วงเกือบ 300 จุด หรือกว่าร้อยละ 1 ยิ่งไปกว่านั้น ราคาหุ้น 30 ตัวในดัชนีดาวน์โจนส์ที่สูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีหายไปหมดในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร ส่วน S&P 500 ปิดร่วงลงร้อยละ 0.4 NASDAQ ปิดร่วงร้อยละ 0.3 เช่นกัน โดยหุ้นภาคอุตสาหกรรมสำคัญของสหรัฐฯ อย่าง Ford Motor และ Boeing ดิ่งหนักถึงร้อยละ1.4 และ 3.5 ตามลำดับ
นาย Bob Phillips ผู้เชี่ยวชาญจาก Spectrum Management Group บอกว่า ทุกครั้งที่มีการยกระดับการตอบโต้การทางค้าระหว่างกัน ยิ่งสร้างความกังวลว่าสถานการณ์จะยากเกินควบคุม
ทั้งนี้ เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ มีคำสั่งให้ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เตรียมใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจากจีนเป็นมูลค่าอีกราว 200,000 ล้านดอลลาร์ โดยกำหนดภาษีดังกล่าวไว้ที่ร้อยละ 10 หากจีนยังปฏิเสธที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางการค้าจากเดิม หลังจากที่ทรัมป์ เพิ่งประกาศเพิ่มภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่าราว 50,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อลงโทษต่อปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสินค้าสหรัฐฯ ในประเทศจีน แต่จีนกลับตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในมูลค่าที่เท่ากัน
ด้านนาย Jim O’Neil นักเศรษฐศาสตร์และหัวหน้าสถาบันคลังสมองของอังกฤษ Chatham House บอกว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน ทำให้เกิดผลเสียกับธุรกิจสำคัญของสหรัฐฯมากที่สุด
ขณะที่คุณ Lindsey Piegza หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Stifel ประเมินด้วยว่า การตอบโต้ด้านภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯและจีน จะส่งผลกระทบต่อจีดีพีของ 2 ชาติมหาอำนาจราวร้อยละ 20-30
