ปัญหาการนอนไม่สนิทเนื่องมาจากการหายใจที่ไม่ปกตินี้รวมทั้งการนอนกรน การหายในทางปาก และการนอนหลับๆตื่นๆ ประมาณว่ามีเด็กหนึ่งในสิบคนนอนกรนเป็นประจำ และ มีจำนวนน้อยกว่านั้นที่มีอาการผิดปกติแบบอื่น
ในการศึกษาชิ้นใหม่ ทีมวิจัยสอบถามพ่อแม่ถึงลักษณะการหายใจของลูกตั้งแต่เป็นทารกจนถึงอายุหกขวบ และ พ่อแม่ได้ตอบคำถามในแบบสอบถามถึงพฤติกรรมของลูกสองครั้งเมื่อตอนอายุสี่ขวบ และ เมื่ออายุครบเจ็ดขวบด้วย
คุณ Karen Bonuck หัวหน้าทีมวิจัยที่ Einstein College of Medicine ในนิวยอร์ค เป็นผู้ประมวลข้อมูลที่ได้จากการวิจัย
เธอกล่าวว่า ผลการวิจัยหลักที่พบคือ การนอนหลับไม่สนิทที่มีผลจากความผิดปกติของการหายใจ มีผลให้เด็กมีปัญหาทางพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการทำงานของสมองเพิ่มขึ้นถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์
ปัญหาพฤติกรรมที่พบในเด็กที่มีอาการหายใจขณะนออนหลับผิดปกติ รวมทั้ง อาการไฮเปอร์ที่เด็กความสนใจสั้นและไม่อยู่นิ่ง ตลอดจนอาการก้าวร้าวและม่ปัญหาด้่านความสัมพันธุ์กับเด็กคนอื่น
คุณ Bonuck หัวหน้าทีมวิจัยบอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่ายิ่งเด็กมีปัญหาการหายใจขณะนอนหลับหนักขึ้น ปัญหาพฤติกรรมเหล่านี้จะยิ่งเลวร้ายเป็นเงาตามตัว
แม้การวิจัยนี้ไม่ใช่การศึกษาครั้งแรกถึงความเกี่ยวเนื่องระหว่างความผิดปกติของการนอนหลับกับปัญหาพฤติกรรมของเด็ก แต่ผลการวิจัยมีความสำคัญ ช่วยสรุปได้ชัดเจนถึงผลกระทบนี้เพราะเป็นการศึกษาขนาดใหญ่ มีเด็กถึงหนึ่งหมื่นหนึ่งพันคนในการวิจัย
หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า ก่อนการศึกษาครั้งนี้ วงการแพทย์พอรู้อยู่แล้วว่าการนอนหลับจากการหายใจที่ผิดปกติ มีผลต่อพฤติกรรม แต่การศึกษาที่จัดทำขึ้นนี้ช่วยให้ฟันธงเรื่องวนี้ได้เพราะเป็นการศึกษาเด็กจำนวนมากและมีการเฝ้าติดตามดูเด็กถึงหกปี เด็กเหล่านี้ถือเป็นตัวแทนของประชากรเด็กทั่วไป
คุณ Bonuck ย้ำว่า การศึกษาเรื่องเดียวกันนี้ที่จัดทำก่อนหน้า ทำการศึกษาเด็กในจำนวนน้อยกว่าและติดตามดูในระยะเวลาที่สั้นและจำกัดอยู่แต่ในเด็กที่มีปัญหาทอนซิลโตและได้รับการผ่าตัดทอนซินทิ้งเท่านั้น
ในการศึกษาชิ้นใหม่ ทีมวิจัยสอบถามพ่อแม่ถึงลักษณะการหายใจของลูกตั้งแต่เป็นทารกจนถึงอายุหกขวบ และ พ่อแม่ได้ตอบคำถามในแบบสอบถามถึงพฤติกรรมของลูกสองครั้งเมื่อตอนอายุสี่ขวบ และ เมื่ออายุครบเจ็ดขวบด้วย
คุณ Karen Bonuck หัวหน้าทีมวิจัยที่ Einstein College of Medicine ในนิวยอร์ค เป็นผู้ประมวลข้อมูลที่ได้จากการวิจัย
เธอกล่าวว่า ผลการวิจัยหลักที่พบคือ การนอนหลับไม่สนิทที่มีผลจากความผิดปกติของการหายใจ มีผลให้เด็กมีปัญหาทางพฤติกรรมที่เกี่ยวกับการทำงานของสมองเพิ่มขึ้นถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์
ปัญหาพฤติกรรมที่พบในเด็กที่มีอาการหายใจขณะนออนหลับผิดปกติ รวมทั้ง อาการไฮเปอร์ที่เด็กความสนใจสั้นและไม่อยู่นิ่ง ตลอดจนอาการก้าวร้าวและม่ปัญหาด้่านความสัมพันธุ์กับเด็กคนอื่น
คุณ Bonuck หัวหน้าทีมวิจัยบอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่ายิ่งเด็กมีปัญหาการหายใจขณะนอนหลับหนักขึ้น ปัญหาพฤติกรรมเหล่านี้จะยิ่งเลวร้ายเป็นเงาตามตัว
แม้การวิจัยนี้ไม่ใช่การศึกษาครั้งแรกถึงความเกี่ยวเนื่องระหว่างความผิดปกติของการนอนหลับกับปัญหาพฤติกรรมของเด็ก แต่ผลการวิจัยมีความสำคัญ ช่วยสรุปได้ชัดเจนถึงผลกระทบนี้เพราะเป็นการศึกษาขนาดใหญ่ มีเด็กถึงหนึ่งหมื่นหนึ่งพันคนในการวิจัย
หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า ก่อนการศึกษาครั้งนี้ วงการแพทย์พอรู้อยู่แล้วว่าการนอนหลับจากการหายใจที่ผิดปกติ มีผลต่อพฤติกรรม แต่การศึกษาที่จัดทำขึ้นนี้ช่วยให้ฟันธงเรื่องวนี้ได้เพราะเป็นการศึกษาเด็กจำนวนมากและมีการเฝ้าติดตามดูเด็กถึงหกปี เด็กเหล่านี้ถือเป็นตัวแทนของประชากรเด็กทั่วไป
คุณ Bonuck ย้ำว่า การศึกษาเรื่องเดียวกันนี้ที่จัดทำก่อนหน้า ทำการศึกษาเด็กในจำนวนน้อยกว่าและติดตามดูในระยะเวลาที่สั้นและจำกัดอยู่แต่ในเด็กที่มีปัญหาทอนซิลโตและได้รับการผ่าตัดทอนซินทิ้งเท่านั้น