ชาวสิงคโปร์จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาทั้ง 89 ที่นั่งวันศุกร์นี้
แม้นักวิเคราะห์จะยอมรับว่าพรรครัฐบาลจะมีชัยได้เสียงข้างมากอีก แต่ก็เตือนด้วยว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นมาตรวัดว่า ประชาชนมีความพอใจมากน้อยแค่ไหนต่อการทำงานของรัฐบาล
ครั้งนี้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่สิงคโปร์ได้รับอิสรภาพในปี ค.ศ. 1965 ที่จะมีการเลือกตั้งสำหรับที่นั่งในรัฐสภาทั้งหมด และพรรคฝ่ายค้าน Workers Party พยายามหาเสียงเพื่อจะได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นจาก 7 ที่นั่งที่มีอยู่ขณะนี้
หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน นาย Low Thai Khiang อยากจะเห็นดุลยภาพในสภาฯ ดีกว่าที่เป็นอยู่
People’s Action Party (PAP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ชนะการเลือกตั้งมาทุกครั้ง เฉพาะในช่วงปี 1968-1984 นั้น พรรคฝ่ายค้านไม่ได้ที่นั่งในสภาเลย
แต่ในการเลือกตั้งปี ค.ศ. 2011 คะแนนนิยมพรรครัฐบาลลดลงไปอยู่ที่ 60% ซึ่งก่อให้เกิดความตกอกตกใจกันไม่น้อย เพราะเป็นคะแนนนิยมต่ำสุดที่เคยมีมา
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังไม่มีใครกล้าพยากรณ์ว่าคะแนนนิยมพรรครัฐบาลจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง ในขณะที่มีผู้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับบริการสาธารณะ นโยบายคนเข้าเมือง และสภาพเศรษฐกิจของประเทศ
นาย Daniel Martin นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของสถาบันวิจัย Capital Economics เชื่อว่า พรรครัฐบาลจะชนะการเลือกตั้งอีก แม้ในช่วงราวๆ ห้าปีที่ผ่านมา จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมากขึ้น โดยรัฐบาลก็ได้พยายามแก้ไขปัญหา แม้จะไม่ได้เสียงผูกขาดในสภาก็ตาม
ส่วนอาจารย์ Bill Case ของมหาวิทยาลัย City University ในฮ่องกง คาดไว้เช่นเดียวกันว่า พรรครัฐบาลจะชนะการเลือกตั้งและปกครองประเทศต่อไป และให้ความเห็นไว้ด้วยว่า กฎหมายสิงคโปร์บังคับให้ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทุกคนไปใช้สิทธิ์ในวันเลือกตั้ง
เพราะฉะนั้นผลการเลือกตั้งของสิงคโปร์จึงเป็นมาตรวัดที่ดีว่า ประชาชนมีความพอใจหรือไม่พอใจกับการทำงานของรัฐบาล มากน้อยแค่ไหนด้วย