นักวิเคราะห์กล่าวว่า มีคนสนใจมากขึ้นที่จะให้เกิดการตรวจสอบที่มาของเชื้อโคโรนาไวรัส ว่าเเพร่สู่คนจากห้องทดลองในเมืองอู่ฮั่นประเทศจีนหรือไม่
ความสนใจดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ สั่งหน่วยงานข่าวกรองอเมริกันระดมทรัพยากรในการตรวจสอบต้นตอของเชื้อไวรัสดังกล่าว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.
นักวิเคราะห์ไมเคิล พิวส์เบอรี ผู้อำนวยการฝ่ายยุทธศาสตร์จีนแห่งองค์กรฝ่ายอนุรักษ์นิยม Hudson Institute ที่กรุงวอชิงตันกล่าวว่า หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ น่าจะต้องเร่งทำงานเรื่องนี้เนื่องจากประธานาธิบดีไบเดน กำหนดว่าจะต้องส่งรายงานการตรวจสอบภายใน 90 วัน
นายพิวส์เบอรี ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาแมนดารินว่าหน่วยงานสหรัฐฯ ควรถามไปยังเจ้าหน้าที่จีนและนักวิจัยจีนว่า "พวกคุณรู้อะไรบ้าง"
ก่อนหน้านี้ทางการจีนตำหนิการเดินหน้าตรวจสอบต้นตอของโควิด-19 ภายใต้การริเริ่มของประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวว่า "สหรัฐฯ ควรหันไปตรวจสอบพฤติกรรมของตนเอง" มากกว่าที่จะมาตรวจสอบจีน
นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่ง แดน แกร์เรตต์ ที่เคยทำงานให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวกับวีโอเอว่า สมมติฐานที่ว่าเชื้อโคโรนาไวรัสเเพร่ออกมาจากห้องทดลองถูกปัดตกไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่มีการตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าความพยายามหาความจริงรอบใหม่น่าจะสามารถทำอย่างปราศจากประเด็นทางการเมืองได้
ข้อคิดเห็นของเเดน แกร์เรตต์ ชี้ให้เห็นว่าในอดีตประเด็นการหาต้นตอของโคโรนาไวรัสมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
นิตยสาร Rolling Stone เคยตีพิมพ์บทความที่กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนทฤษฎีที่ว่าเชื้อแพร่ออกมาจากห้องเเล็บ และท่าทีดังกล่าวเป็นตัวอย่างของความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างวิทยาศาสตร์และการเมืองในประเด็นที่เกี่ยวกับโควิด
บทความชิ้นดังกล่าวระบุว่า "เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยข้อสันนิษฐานทางวิทยาศาสตร์ และเมื่ออยู่ในมือทรัมป์ ก็กลายเป็นความพยายามที่จะกล่าวโทษจีนและมีการหยั่งรากลึกถึงเรื่องการเหยียดชาวเอเชีย" และด้วยบริบทดังกล่าวทฤษฎีที่ว่านี้จึงถูกปัดตกไป
อย่างไรก็ตามในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เริ่มมีการพิจารณาข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ว่าเชื้ออาจเริ่มต้นจากห้องทดลองมากขึ้น
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยรายงานจากการเดินทางไปตรวจสอบที่ห้องทดลองในเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน
รายงานของ WHO ชี้ว่ามีความเป็นไปได้มากที่โควิด-19 จะเกิดจากเหตุตามธรรมชาติ ส่วนข้อสันนิษฐานที่ว่าการเเพร่ของเชื้อเกิดขึ้นเนื่องจากอุบัติเหตุในห้องทดลอง เป็นเรื่องที่ "น่าจะเกิดขึ้นยากอย่างยิ่ง"
ปรากฏว่ารายงานของ WHO ถูกโจมตีโดยบทความของนิตยสาร The Diplomat ที่พาดหัวข่าวว่ารายงานของ WHO ทำให้ผู้คนยังไม่ได้รับข้อมูลที่น่าพอใจ
จากนั้น วันที่ 14 พ.ค. ในนิตยสาร Science ตีพิมพ์จดหมายที่นักชีววิทยาคนสำคัญ 18 รายร่วมกันเขียนขึ้นเพื่อเรียกร้องให้มีการพิจารณาสมมติฐานทั้งที่เกี่ยวกับการเพร่จากห้องเล็บและการเกิดขึ้นทางธรรมชาติอย่างจริงจัง
นักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เรียกร้องให้กระบวนการดังกล่าวดำเนินไปอย่างโปร่งใส เป็นไปตามข้อเท็จจริง เป็นอิสระเเละครอบคลุมประเด็นต่างๆ อย่างครบถ้วน
ทั้งนี้จดหมายที่ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Science ถูกโจมตีกลับโดยสื่อ Global Times ของทางการจีน
แดน แกร์เรตต์ อดีตนักวิเคราะห์แห่งกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับวีโอเอว่าเขาคาดหวังว่าคำสั่งของประธานาธิบดีไบเดนที่ให้มีการตรวจสอบหาความจริงจะนำไปสู่การใช้ความรู้ความสามารถของบุคลากรฝ่ายข่าวกรองของสหรัฐฯอย่างเต็มที่
ส่วนไมเคิล พิวส์เบอรี จาก Hudson Institute ระบุว่าควรมีการตรวจสอบว่าประธานาธิบดีสี จิ้น ผิงของจีนพยายามปกปิดข้อมูลอะไรหรือไม่ในเรื่องการเเพร่ของโคโรนาไวรัส และควรตรวจสอบความเกี่ยข้องใดๆของสหรัฐฯ ด้วยที่มีกับสถาบันไวรัสวิทยาเเห่งเมืองอู่ฮั่น
