ปีหนึ่งๆ วัคซีนเพียงชนิดเดียวที่ใช้ป้องกันวัณโรคอยู่ตอนนี้ ที่เรียกว่า BCG นั้น ใช้กับเด็กทารกและเด็กเล็กราว 120 ล้านคนทั่วโลกในประเทศกำลังพัฒนา แต่วัคซีนนี้มีปัญหา
Rhea Coler แห่งสถาบันวิจัยโรคติดต่อซึ่งเป็นหน่วยงานไม่แสวงกำไรที่เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐกล่าวว่า ภูมิต้านทานที่วัคซีนนี้ทำให้เกิดขึ้นในร่างกายจะค่อยๆ ลดลง จนไม่สามารถคุ้มกันผู้ได้รับวัคซีนนี้ในวัยเด็กเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มาตอนนี้ มีพัฒนาการที่นักวิจัยกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าตื่นเต้น คือ Rhea Coler และเพื่อนร่วมงานได้พัฒนาวัคซีนเสริมความสามารถในการต่อต้านวัณโรคขึ้นมาได้ และหวังกันว่า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของวัคซีน BCG
ในการศึกษากับหนูทดลอง วัคซีนทดลองนี้ทำให้หนูทดลองที่ได้รับวัคซีน BCG ตั้งแต่ยังเป็นลูกหนูเล็กๆ มีภูมิต้านทานตลอดชีวิต
วัคซีนเสริมความสามารถในการต่อต้านวัณโรคนี้ มีสารโปรตีน 4 ชนิดจากเชื้อวัณโรค โดยคัดมาในห้องทดลองตามคุณสมบัติในการกระตุ้นการตอบสนองของภูมิต้านทานในการต่อต้านโรค นักวิจัยกล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเชื้อวัณโรคมีหลายชนิด และไม่มีสารโปรตีนชนิดหนึ่งชนิดใดมีประสิทธิภาพในการต้านเชื้อได้หมดทุกชนิด
นักวิทยาศาสตร์พบประโยชน์ยิ่งกว่านั้น คือ วัคซีนนี้ ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อวัณโรคสายพันธ์ที่ไม่ไม่ตอบสนองยาปฏิชีวนะที่ใช้ในการบำบัด
ประชาชนราว 1 ใน 3 ของโลกติดเชื้อวัณโรค ซึ่งแพร่ทางอากาศ ติดได้ง่ายเหมือนไข้หวัดทั่วไปจากการไอหรือจาม ส่วนใหญ่คนทั่วไปไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ เพราะวัณโรคหรือ TB มักอยู่ในสภาพแอบแฝงหรือหลบใน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ผู้ติดเชื้อราว 5 – 10 % ที่มีอาการเจ็บป่วย
การบำบัดผู้ป่วยต้องใช้ยาสองขนานขึ้นไปพร้อมๆ กัน เป็นเวลาหลายเดือน หากไม่รับประทานยาครบตามกำหนด อาจทำให้เชื้อที่แข็งแรงยังไม่ตายและกลายเป็นเชื้อดื้อยา
นักวิจัยคาดว่า จะมีการทดลองที่ปลอดภัยกับคนในสหรัฐได้ในอีกไม่ช้า และจะมีการทดลองในขอบเขตกว้างขวางออกไปกับคนจำนวนมากขึ้นในอินเดียต่อไป
Rhea Coler กล่าวว่า หากไม่มีปัญหาด้านความปลอดภัย ก็จะมีการอนุมัติให้นำยานี้ออกใช้กับเด็กโตหรือเด็กวัยรุ่นได้ต่อไป ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดว่า จะไม่มีปัญหาอะไร
บทความเรื่องนี้ ลงพิมพ์ในวารสาร Science Translational medicine