คุณอามีนา คูทูบ ใช้กล้องส่องจุลทรรศน์ที่มีแรงขยายสูงกับอุปกรณ์ฉายภาพที่ก้าวหน้า ในการสังเกตุเซลล์สมองที่บรรจุอยู่ในกล่องแก้ว และพยายามศึกษาการเชื่อมโยงเข้าด้วยกันของเซลล์นิวรอน
คุณคูทูบ กล่าวว่าทีมงานกำลังค้นคว้าเกี่ยวกับสเต็มเซลล์ในสมองที่สามารถสร้างเซลล์ตัวใหม่ขึ้นมาทดแทนตัวเองได้ ว่ามันสร้างเครือข่ายนิวรอนใหม่ๆ ได้อย่างไร?
เซลล์สมองเชื่อมต่อเข้าด้วยกันผ่านทั้งทางสัญญาณสารเคมีและสัญญาณไฟฟ้า และยังนำโปรตีนชนิดต่างๆ ไปใช้ในการกระตุ้นการเจริญเติบโต
ทีมงานวิจัยของคุณคูทูบที่มหาวิทยาลัย Rice เป็นนักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ทางเทคนิค พวกเขาผสมผสานความรู้หลายแขนงทั้งด้านชีววิทยา วิศวกรรมไฟฟ้าและเทคโนโลยีด้านอนุภาคนาโนในการไขปริศนาเกี่ยวกับเซลล์สมองของคนเรา
คุณคูทูบกล่าวว่า เซลล์สมองทุกเซลล์ได้รับอิทธิพลจากเซลล์สมองรอบข้างในเครือข่ายที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน และทีมงานกำลังพยายามศึกษาดูว่าเมื่อเซลล์สมองเซลล์หนึ่งเซลล์ใดกลายเป็นเซลล์นิวรอนที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าออกมา มันจะได้รับอิทธิพลจากเซลล์อื่นๆ ในเครือข่ายอย่างไร
ในห้องทดลอง มีผลงานศิลปะแบบนามธรรมซึ่งประกอบด้วยภาพต่างๆ ของเครือข่ายเซลล์นิวรอนหลายเครือข่าย แสดงให้เห็นความซับซ้อนของเครือข่ายเซลล์สมอง
คุณคูทูบกล่าวว่า เซลล์นิวรอนเชื่อมต่อกันเป็นโครงสร้างที่ละเอียดและสวยงาม และเครือข่ายเซลล์สมองแต่ละเครือข่ายต่างทำงานตามหน้าที่ เธอกล่าวว่าทีมงานพยายามค้นหาว่ามีสัญญาณทางเคมีอะไรที่นำไปสู่การเชื่อมโยงกันเป็นโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่ง
และในทางกลับกัน เพื่อศึกษาว่าเครือข่ายสัญญาณทางเคมีที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดสัญญาณทางไฟฟ้าที่เกิดจากการทำงานของเซลล์นิวรอนได้อย่างไร
การวิจัยที่มหาวิทยาลัย Rice นี้ได้รับเงินสนับสนุนส่วนหนึ่งจากโครงการวิจัยเกี่ยวกับสมองหรือ Brain Initiative มูลค่า 300 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ของประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าแห่งสหรัฐฯ ซึ่งลอกแบบจากโครงการ Human Genome
คุณคูทูบหวังว่าการศึกษานี้จะช่วยสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับสมองเเละเซลล์สมอง ซึ่งจะช่วยนำไปสู่การบำบัดที่ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อรักษาสมองที่เสียหายจากโรคต่างๆ อาทิ อาการเส้นเลือดในสมองแตกและอัลไซเมอร์ส
คุณคูทูบกล่าวว่าจากการศึกษานี้ ทีมวิจัยกำลังพยายามเข้าใจถึงกลไกที่ช่วยให้เซลล์สมองเกิดขึ้นมาใหม่ได้ และความรู้นี้จะช่วยให้ทีมนักวิจัยเสาะหาตัวยาที่ดีขึ้น เพื่อบำบัดความเสียหายในสมองได้ตรงเป้าหมายมากขึ้นในอนาคต
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)