ลิ้งค์เชื่อมต่อ

โรงเรียนคือสถานที่ที่ไม่เป็นมิตรสำหรับนักเรียน LGBTQ


LGBTQ rights
LGBTQ rights

นักวิจัยได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับนักเรียน LGBTQ หรือกลุ่มนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศที่โรงเรียนในสหรัฐฯ รายงานดังกล่าวพบว่านักเรียน LGBTQ เกือบทั้งหมดที่ถูกสอบถามเผยว่าได้ยินได้ฟังความคิดเห็นที่ก้าวร้าวเกี่ยวกับเรื่องเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศของตน

การสำรวจที่ใช้ชื่อว่า The GLSEN 2019 National School Climate Survey เปิดเผยข้อมูลว่า นักเรียนกลุ่มดังกล่าวบอกว่าได้ยินคำพูดกระทบกระทั่งว่าตนเป็นเกย์ ทั้งในสนามเด็กเล่นของโรงเรียนและในโรงอาหารในมหาวิทยาลัย

GLSEN เป็นกลุ่มการศึกษาและสนับสนุนระดับชาติสำหรับสมาชิกของชุมชน LGBTQ บรรดาครูอาจารย์เป็นผู้ตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมาเพื่อให้การสนับสนุนบุคคลที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรในโรงเรียน

LGBTQ ย่อมาจาก lesbian gay bisexual transgender และ queer

การสำรวจระดับชาติเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในโรงเรียนปีพ.ศ. 2562 ได้สำรวจความคิดเห็นของนักเรียน 16,700 คนในระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนสิงหาคมเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนักเรียนทั้งหมดเป็นสมาชิกของชุมชน LGBTQ

จากการสำรวจพบว่าเกือบ 99% ของนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 13 และ 21 ปีรายงานว่าได้รับฟังความคิดเห็นเชิงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศของตน และเกือบ 92%กล่าวว่าสิ่งที่ได้ยินทำให้รู้สึก "ทุกข์ใจ"

Aiden Cloud นักเรียนอายุ 17 ปีในโรงเรียนเอกชนขนาดเล็กที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี กล่าวว่าคุณครูของเขาไม่เปิดกว้างที่จะพูดคุยเกี่ยวกับประเด็น LGBTQ และว่าแม้ว่าโรงเรียนของเขาจะมีนักเรียนที่เรียกว่า Queer หรือชายรักชายอยู่จำนวนมาก เช่นเดียวกับที่โรงเรียนอื่นๆ แต่ก็มักจะไม่มีใครมองเห็น และรู้สึกโดดเดี่ยวอยู่เสมอ

การพูดคุยเกี่ยวกับปัญหา LGBTQ ในโรงเรียนได้นำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในประเทศอื่นๆ เมื่อปีที่แล้วผู้ปกครองบางคนในประเทศอังกฤษประท้วงการอภิปรายเรื่องเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศในโรงเรียนในท้องถิ่น

รายงาน GLSEN สำรวจนักเรียนใน 50 รัฐของสหรัฐฯ รวมทั้ง วอชิงตัน ดีซี เปอร์โตริโก อเมริกันซามัว และกวม ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าอาการ homophobia หรือการเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องปกติในสถาบันการศึกษา

กว่า 95% ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามกล่าวว่า เคยได้ยินคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกเกี่ยวกับนักเรียน LGBTQ ที่โรงเรียน นักเรียนมากกว่าครึ่งรายงานว่าได้ยินคำพูดดังกล่าว การข่มขู่ หรือการล้อเลียนโดยการเรียกชื่อต่างๆ เนื่องจากอัตลักษณ์ทางเพศของตน และนักเรียน 11% รายงานว่าถูกทำร้ายร่างกายเนื่องจากเรื่องเพศของพวกเขาอีกด้วย

Eliza Byard กรรมการบริหารของ GLSEN หรือกลุ่มที่รู้จักกันดีในชื่อเดิมว่า Gay, Lesbian & Straight Education Network กล่าวว่าผลการสำรวจดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องหาทางจัดการกับปัญหานี้ต่อไป

อย่างไรก็ตาม Byard ตั้งข้อสังเกตว่าสถานการณ์ในตอนนี้แตกต่างจากในอดีตเมื่อ 20 หรือ 25 ปีก่อนมาก แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชัดเจน

GLSEN วางแผนโครงการ No Name-Calling Week ระหว่างวันที่ 18 ถึง 22 มกราคมพ.ศ. 2564วัตถุประสงค์ของสัปดาห์นี้ก็คือยุติการล้อเลียนยั่วยุและการพูดจาส่อเสียดในโรงเรียน และคณะผู้จัดงานต้องการให้นักเรียนได้เรียนรู้การมีน้ำใจต่อกันอีกด้วย

XS
SM
MD
LG