ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า หากประเทศใดก็ตามพยายามแทรกแซงด้วยการแทะเล็มดินแดนในการปกครองของรัสเซีย จะถูก “เลาะฟันจนหมดปาก” ตามรายงานของเอพี
ประธานาธิบดีปูติน กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์ระหว่างการประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย ระบุถึงคำกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติซึ่งตั้งคำถามต่อการปกครองของรัสเซียเหนือแคว้นไซบีเรียตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ตั้งแต่อดีต คือเมื่อใดก็ตามที่รัสเซียแข็งแกร่งขึ้น ศัตรูจะพยายามหาทางสกัดการเติบโตของรัสเซียเอาไว้” ผู้นำรัสเซียกล่าว โดยอ้างถึงเสียงวิจารณ์ต่าง ๆ ที่มีต่อรัสเซีย รวมทั้งการตั้งคำถามต่อการครอบครองแคว้นไซบีเรียที่มีทรัพยากรด้านพลังงานมหาศาลเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว
“ทุกคนหวังจะแทะเล็มดินแดนหรือผลประโยชน์บางอย่างของรัสเซีย ซึ่งใครก็ตามที่ทำเช่นนั้น รัสเซียจะเลาะฟันออกให้หมดจนกว่าจะไม่สามารถแทะเล็มได้อีกต่อไป” ประธานาธิบดีระบุด้วยว่า “การพัฒนากำลังทหารของรัสเซีย คือการรับประกันในเรื่องนี้”
ที่ผ่านมา รัสเซียถือว่าการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยคือภารกิจสำคัญอันดับหนึ่ง ท่ามกลางความขัดแย้งกับชาติตะวันตกที่เพิ่มขึ้น สืบเนื่องจากการที่รัสเซียควบรวมแคว้นไครเมียเมื่อปี ค.ศ.2014 การกล่าวหารัสเซียอยู่เบื้องหลังการลอบโจมตีทางไซเบอร์และการแทรกแซงการเลือกตั้ง รวมทั้งประเด็นอื่น ๆ
ปูติน กล่าวว่า มาตรการลงโทษที่ชาติตะวันตกนำมาใช้กับรัสเซีย คือแนวโน้มด้านประวัติศาสตร์อันยาวนานในความพยายามควบคุมอำนาจอันยิ่งใหญ่ของรัสเซีย และแม้รัสเซียได้สูญเสียศักยภาพไปถึง 1 ใน 3 หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่ก็ยังคงยิ่งใหญ่เกินไปในสายตาของบางประเทศ
ประธานาธิบดีปูติน กล่าวอ้างว่า ปัจจุบันรัสเซียคือประเทศที่มีพละกำลังด้านนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ที่ทันสมัยที่สุด รวมทั้งสุดยอดเทคโนโลยีด้านอาวุธ อย่างเครื่องร่อนความเร็วเหนือเสียง อแวนการ์ด (Avangard) ที่สามารถเดินทางได้เร็วกว่าความเร็งเสียงถึง 27 เท่า และสามารถโจมตีผ่านระบบป้องกันขีปนาวุธของศัตรูได้
รวมทั้งโดรนใต้น้ำพลังงานปรมาณูติดหัวรบนิวเคลียร์ โปไซดอน (Poseidon) ที่อยู่ระหว่างการทดสอบ ซึ่งปูตินอ้างว่าสามารถสร้างคลื่นยักษ์สึนามิใกล้ชายฝั่งของประเทศคู่อริได้ด้วย
