ทางการโปแลนด์ออกวีซ่ามนุษยธรรมให้ คริสต์ซินา ซิมาโนสกายา นักวิ่งชาวเบลารุสที่เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ซิมาโนสกายา สามารถลี้ภัยทางการเมืองในโปแลนด์ได้หลังเธอกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ทีมชาติพยายามบังคับให้เธอเดินทางกลับประเทศโดยที่เธอไม่ยินยอม
นักวิ่งชาวเบลารุสวัย 24 ปีผู้นี้ระบุว่า เธอเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากรัฐบาลที่ผูกขาดอำนาจของประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก
มาร์ซิน เปอร์ซิแดกซ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของโปแลนด์ ทวีตข้อความในช่วงเย็นวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ว่า โปแลนด์ได้ออกวีซ่าให้กับซิมาโนสกายาแล้ว ในขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวกลุ่มหนึ่งระบุว่า ได้ซื้อตั๋วเครื่องบินให้ซิมาโนสกายาเพื่อให้เธอเดินทางไปยังกรุงวอร์ซอได้ในวันพุธ
ก่อนหน้านี้ ซิมาโนสกายา วิจารณ์การจัดการทีมโอลิมปิกของเบลารุสจนเธอตกมาเป็นเป้าของสื่อทางการของเบลารุส
ทั้งนี้ ผู้นำเบลารุสและวิคเตอร์ ลูคาเชนโก บุตรชายของเขา เป็นประธานคณะกรรมการโอลิมปิกเบลารุสมาแล้วกว่า 25 ปี
ซิมาโนสกายาระบุในบัญชีอินสตาแกรมของเธอว่า เธอถูกวางตัวในทีมวิ่งผลัด 4 x 400 เมตร ทั้งที่ไม่เคยเข้าแข่งขันประเภทนี้มาก่อน
นักวิ่งผู้นี้กล่าวกับผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ผ่านทางแอปพลิเคชั่นเทเลแกรมว่า หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเบลารุสมาที่ห้องของเธอในหมู่บ้านนักกีฬาเมื่อวันอาทิตย์ และบอกเธอว่า เธอต้องออกจากการแข่งขันและต้องเก็บของเพื่อเดินทางกลับประเทศ
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่เบลารุสนำตัวเธอไปยังสนามบินในกรุงโตเกียว เพื่อขึ้นเที่ยวบินไปยังนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี แต่เธอไม่ยอมโดยสารเที่ยวบินดังกล่าว และเข้าหาตำรวจญี่ปุ่นเพื่อขอความช่วยเหลือแทน
ต่อมาในช่วงบ่ายวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ซิมาโนสกายาถูกนำตัวไปยังสถานทูตโปแลนด์ในรถตู้สีเงินของทางตำรวจ มีหญิงสองคนออกมาต้อนรับเธอที่หน้าประตูสถานทูต โดยหนึ่งในนั้นถือธงสีแดง-ขาว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายค้านในเบลารุส
เมื่อเดือนพฤษภาคม ชาติตะวันตกรุมประณามเบลารุสหลังทางการเบลารุสบังคับเครื่องบินพาณิชย์ที่บินเหนือน่านฟ้าเบลารุสให้ลงจอด เพื่อควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลที่โดยสารเที่ยวบินนั้นพร้อมแฟนสาว โดยซิมาโนสกายาระบุว่า เธอกังวลถึงความปลอดภัยของตนเองหากเดินทางกลับเบลารุส เนื่องจากเธอวิจารณ์การจัดการนักกีฬาทีมชาติเบลารุสหลายครั้ง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักกีฬาจากประเทศอำนาจนิยมมักขอลี้ภัยทางการเมืองในประเทศอื่นในระหว่างการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนหรือการแข่งขันกีฬาระดับโลกอื่นๆ โดยเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น
(หมายเหตุ: ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าว The Associated Press และสำนักข่าวรอยเตอร์)