นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงเชื่อว่าขณะนี้พรรคคอมมิวนิตส์ของฟิลิปปินส์พร้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธที่มีชื่อว่ากองทัพประชาชนแห่งชาติหรือ NPA กำลังระดมหาสมาชิกใหม่และแนวร่วมจากนักศึกษาหัวก้าวหน้าในมหาวิทยาลัย รวมทั้งจากผู้คนในเขตชนบทที่มีฐานะยากจนและไม่ได้รับความเป็นธรรมทางสังคมโดยเฉพาะในพื้นที่ๆ ไม่มีการปฏิรูปที่ดิน
นักวิเคราะห์ชี้ว่าขณะนี้กองกำลังติดอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์ฟิลิปปินส์มีกำลังพลเหลืออยู่ราว 4,000 คนขณะที่ตัวพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งรับผิดชอบด้านอุดมการณ์อ้างว่ามีสมาชิกราว 70,000 คนในปัจจุบัน
นาย Enrico Cau ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสมาคม Taiwan Strategy Research เชื่อว่าขณะนี้เป็นเรื่องง่ายขึ้นที่พรรคคอมมิวนิตส์ของฟิลิปปินส์จะมองหาพลพรรคหรือแนวร่วมจากกลุ่มคนหัวก้าวหน้าในสังคม กลุ่ม LGBT นักศึกษามหาวิทยาลัย รวมทั้งจากคนที่ยากจนในพื้นที่ห่างไกล ตัวอย่างเช่นเมื่อปี 2548 พรรคคอมมิวนิสต์ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ได้รับความสนับสนุนจากผู้ที่ต้องการให้มีกฎหมายยอมรับการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน
แต่นอกจากความสนับสนุนจากผู้ร่วมอุดมการณ์หรือคนที่มีแนวคิดแบบก้าวหน้าคล้ายๆ กันแล้ว เชื่อกันว่าพรรคคอมมิวนิสต์ของฟิลิปปินส์ยังได้รับความสนับสนุนด้านการเงินทั้งจากภายในและภายนอกประเทศด้วย
โดยนักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงเชื่อว่ามีนักสอนศาสนาคริสต์และแม่ชีบางกลุ่มในประเทศที่บริจาคเงินให้กับกองกำลังติดอาวุธ NPA และแม้กระทั่งสหภาพยุโรปก็ถูกมองว่าให้เงินช่วยเหลือกองกำลังติดอาวุธ NPA นี้ผ่านทางกลุ่ม NGO ด้วย โดยเมื่อเดือนมีนาคม รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ขอให้สหภาพยุโรปและเบลเยียมยุติการให้เงินช่วยเหลือต่อกลุ่มที่ทางการกรุงมนิลาเห็นว่าสนับสนุนการจับอาวุธขึ้นต่อสู้ แต่สหภาพยุโรปได้แถลงเมื่อวันที่ 30 มีนาคมหลังการตรวจสอบว่าไม่พบความเกี่ยวพันที่ว่านี้
ในขณะนี้ทั้งรัฐบาลกรุงมนิลากับพรรคคอมมิวนิสต์ต่างประกาศว่าตนพร้อมจะต่อสู้ต่อไปอีก 50 ปี ถึงแม้ฝ่ายรัฐบาลจะพยายามเจรจาสันติภาพกับตัวแทนของพรรคคอมมิวนิสต์ในระดับท้องถิ่นก็ตาม อย่างไรก็ตามพรรคคอมมิวนิสต์ได้ยกระดับการต่อสู้กับรัฐบาลในช่วงหลังปี 2560 เป็นต้นมาหลังจากที่การเจรจาสันติภาพไม่เป็นผลและการสู้รบระหว่างสองฝ่ายทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วราว 30,000 คน
แต่เดิมนั้นพรรคคอมมิวนิสต์แห่งฟิลิปปินส์ได้รับแรงดลใจด้านลัทธิอุดมการณ์จากพรรคคอมมิวนิสต์จีนในสมัยประธานเมาเซตุง โดยในช่วงทศวรรษที่ 1970 จีนให้ความสนับสนุนด้านอาวุธ เช่น ปืนกลมือ M-14 ปืนบาซูก้า ปืนครก และอุปกรณ์สื่อสารบางอย่างแก่พรรคคอมมิวนิสต์ของฟิลิปปินส์
อย่างไรก็ตามความสนับสนุนด้านอาวุธที่ว่านี้ได้ยุติลงภายใต้ข้อตกลงกับรัฐบาลสมัยอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินัล มาร์คอสและอาจารย์ Herman Kraft ผู้สอนวิชารัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งฟิลิปปินส์ให้ข้อมูลว่าในความพยายามเพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของประธานาธิบดีดูแตร์เต้ รัฐบาลปักกิ่งได้ให้ความช่วยเหลือในรูปปืนกลมือกับปืนยาวไรเฟิลราว 3,000 กระบอกแก่รัฐบาลกรุงมนิลา
โดยถึงแม้จะไม่มีการระบุเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของอาวุธเหล่านี้ก็ตาม นักวิเคราะห์ก็เชื่อว่ากองทัพฟิลิปปินส์สามารถนำอาวุธที่ได้รับความช่วยเหลือจากจีนนี้ไปใช้เพื่อปราบปรามกองกำลังติดอาวุธ NPA ของพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศได้
